วันที่ 23 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ ผบ.ชค. กรม.ทพ.12 ฉก.ร.12 กกล.บูรพา (ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่12กองกำลังบูรพา) ได้สั่งการให้ พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผบ.ร้อย.ทพ.1201 (ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ. อโนทัย จินดามณี ผกก. สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว , พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว จัดกำลังพลร่วมกัน ออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ เพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติ แนวชายแดน พื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง ตามนโยบายและคำสั่งของ พล.ต.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา
ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 1 คน ( ช. )ถือกระเป๋าหนังสีดำ เดินเท้าฝ่าความมืดข้ามแนวชายแดนช่องธรรมชาติบริเวณลำน้ำคลองลึก จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ระหว่าง จุดตรวจ จต.อ.14 – จต.อ.15 พื้นที่ชายแดน บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นชาวเกาหลีใต้ ไม่สามารถพูดหรือฟังภาษาไทยได้ จนท.ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนา เบื้องต้นชาวเกาหลีคนดังกล่าวอ้างว่าไม่มีพาสปอร์ตและเมื่อสอบถามอีกครั้งบอกว่าลืมพาสปอร์ตอยู่ในฝั่งกัมพูชา โดยระบุว่าชาวเกาหลีใต้ เดินทางมาเที่ยวและเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่าสาเหตุที่ลักลอบเข้าไทยเพราะเดินหลงทาง ซึ่ง จนท.ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากลักลอบเข้ามาในช่วงเวลา 03.00 น.อีกทั้งต้องเดินเท้ามาตามเส้นทางธรรมชาติจึงไม่ใช่การหลงทางแน่ แต่เมื่อ จนท.พยายามสอบถามเชิงลึกชาวเกาหลีคนดังกล่าวกลับไม่ยอมพูดอะไรอีก อ้างว่าฟังภาษาอังกฤษ ไม่รู้




