No data was found

“ผบก.น.5” ชี้ปมทะเลาะสาวสองไทย-ฟิลิปปินส์ เป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันไม่มีมาเฟีย

กดติดตาม TOP NEWS

ผบก.น.5 เผยปมเหตุกระเทยไทยยกพวกทวงแค้นกะเทยฟิลิปปินส์ ชนวนเหตุจากความบาดหมางส่วนตัว เชื่อมีเรื่องเขม่นกันแล้วโพสต์ปลุกระดมผ่านสื่อโซเชียล จนชุลมุนบานปลาย ยืนยันไม่มีมาเฟีย

ผบก.น.5” ชี้ปมทะเลาะสาวสองไทย-ฟิลิปปินส์ เป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันไม่มีมาเฟีย – Top News รายงาน
ผบก.น.5

วันนี้ ( 5 มี.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีสาวสองไทย นัดชุมนุม ทวงศักดิ์ศรี จากสาวสองฟิลิปปินส์ หลังก่อเหตุรุมทำร้ายเพื่อนสาวสองไทยจนบาดเจ็บและแชร์คลิปเหตุการณ์ เย้ยหยัน ที่สน.ลุมพินี ซึ่งมีการชาวไทย 7 คน-ชาวฟิลลิปปิน 4 คน ที่เชิญตัวมาตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยพลตำตรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า จากการสอบปากคำกลุ่มกระเทยไทย ทั้งหมด 7 คน เบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมาก่อน และเคยถูกเชิญตัวมาไกล่เกลี่ยกันที่สน.ปทุมวันแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนพนักงานสอบสวนจะว่ากล่าวตักเตือนและปล่อยทั้งสองฝ่ายไปแล้วกระทั่งเกิดเหตุรุมทำร้ายกันเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยหลังเกิดเหตุ กลุ่มผู้เสียหาย จึงตามไปถึงที่พักของกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์ เมื่อตำรวจทราบข่าวจึงเดินทางเข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลาย พร้อมเชิญผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์และกลุ่มผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามด้วยอิทธิพลของ สื่อโซเชียลฯ ที่กระจายเป็นวงกว้างได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้มีกลุ่มกระเทยมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อกดดันชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรมดังกล่าว จนต้องมีการจัดกำลังจากสถานีตำรวจข้างเคียงกว่า 40 นายเข้าไประงับเหตุ และช่วยกันนำตัวชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ออกมาจากโรงแรม เพราะเกรงว่า สถานการณ์จะบานปลายเกิดขึ้น แต่การดำเนินการก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมมีเป็นจำนวนมาก จึงฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ที่น้อยกว่า เข้ามารุมประชาทัณฑ์จนทำให้ชาวฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ 1 คน

ส่วนสาเหตุเชื่อว่า เป็นการเขม่นกัน เพราะเชื้อชาติและ ความเห็นต่างกัน และเหตุดังกล่าวเคยมีการพยายามเจรจาเคลียร์กันไปแล้วหลายครั้ง และก็แยกย้ายกันไป แต่ต่อมามีการโพสต์ลงโซเชียลอีก จนทำให้มีการรวมตัวกันขึ้นเหตุการณ์บานปลายเกิดเหตุชุลมุนขึ้น

สำหรับการดำเนินคดีเบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายชาวไทย เพื่อระบุตัวบุคคลผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชาวฟิลิปปินส์ ได้มีการสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้วทั้ง 4 ปาก โดยหนึ่งในจำนวนนั้นซึ่งถูกรุมประชาทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เข้าไปทำร้ายในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย

เบื้องต้นตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เพื่อหาตัวผู้ที่กระทำผิด ทั้งนี้มีการแจ้งความไว้ทั้งสองฝ่ายแล้ว และส่งผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำเข้าสำนวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่เบื้องต้นยังไม่มีมีการแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย และจะต้องตรวจสอบโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และ Body Camera ของตำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายให้ได้มากที่สุด

โดยส่วนของกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์ ก็จะต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ได้ทั้งหมดก่อน จึงจะทราบว่ามีบุคคลใดที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วบ้าง และหากคู่กรณีออกนอกประเทศไป ก็มีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจการทำงานของตำรวจ นอกจากนี้ได้ประสานทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ว่าได้เดินทางเข้าประเทศโดยถูกกฎหมายหรืออยู่เกินกว่าระยะเวลากำหนด ส่วนประเด็นที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยหรือไม่นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมยืนยันเบื้องต้นไม่มีกลุ่มมาเฟียอยู่เบื้องหลังและจะขอตรวจสอบก่อนและจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่โรงแรมที่เกิดเหตุด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายอนันต์ชัย" ลุยเปิดโปงแก๊งเชื่อมจิต 10 พ.ค.นี้ ลั่นไม่ผิดหวังแน่ ด้าน "หนุ่ม กรรชัย" จ่อดำเนินการร้องทุกข์กับลัทธิหนึ่งแล้ว
อสส. มอบนโยบายให้กับพนักงาน และ ลูกจ้างสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ ร่วมรับฟังการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2567
“พิพัฒน์” นำทีม Safety จิตอาสา แสดงพลังร่วมเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างยั่งยืน
ด่วน "กนอ." สั่งอพยพคนในพื้นที่ "ไฟไหม้ระยอง" ประกาศเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2
เมียนมา รัฐบาล-กลุ่มต่อต้านไม่ยอมรับเจรจาสันติภาพทักษิณ
ผู้เสียหาย ร้องเอาผิด สาวใหญ่ หลอกแลกพระเก๊-นาฬิกาหรู สูญเงินนับ 10 ล้าน ล่าสุดออกหมายเรียกแล้ว
"สว.สมชาย" ส่งคำถาม 3 ข้อถึงรัฐบาล คาใจโปรโมทข้าวค้างโกดัง 10 ปี
"อนุทิน" ย้ำนายกฯอยากดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด มั่นใจไม่กระทบฐานเสียงภูมิใจไทย
ปปป.ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.แล้ว ปม "บิ๊กต่อ" กับพวกรับส่วยเว็บพนันฯ
มท.1 สั่งทุกหน่วยงาน ต้องปกป้องคนไทย-นทท. ให้พ้นมาเฟีย ย้ำขรก.ต้องไม่กลัวถูกข่มขู่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น