No data was found

ตร.โคราช แถลงรวบแก๊งล่อลวงแรงงาน หลอกไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้

กดติดตาม TOP NEWS

ตำรวจโคราช รวบแก๊งล่อลวงแรงงานหลอกไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ พบผู้ต้องหารายสำคัญมีค่าหัวถึง 8 หมื่นบาท

วันที่ 6 กันยายน 2564 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครราชสีมา ได้ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดีฉ้อโกงแก๊งล่อลวงแรงหลอกไปทำงานอยู่ประเทศเกาหลีใต้ ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรภาค 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

จากพฤติการคนร้ายทราบว่าร่วมกันเป็นขบวนการ โดยได้มีผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ทั้งหมด 7 สถานีตำรวจ โดยได้แจ้งความในลักษณะว่าโดนล่อลวงให้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามความคืบหน้าตั้งแต่นั้นมาพบว่าผู้ร่วมกระบวนทั้งหมด 6 คน ซึ่งได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้วทั้งหมด 4 คน ซึ่งยังคงเหลือ 2 คนที่ยังหลบหนีทราบชื่อคือนายสมบุญ ดวงเกตุ และนางบุญ ดวงเกตุ สามีภรรยา ซึ่งหลบหนีคดีไปแล้ว 10 ปี ส่วนผู้ต้องหาสองคนนี้มี หมายจับคนละ 11 หมายจับ รวม 22 หมายจับ มูลค่าความเสียหายที่หลอกลวงเงินจากผู้เสียหายไป รวม 2,428,000 บาท ซึ่งทางพล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เล่งเห็นว่าเป็นคดีสำคัญจึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดพ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย หัวหน้าชุด ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมทีมสืบสวน ดำเนินสืบสวนจนทราบว่าในห้วงที่ ผู้ต้องหาทั้งสองคนทราบว่า กำลังจะถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้มีการไปทำหนังสือ เดินทางไทย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 และ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2554ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เดินทาง ชุดสืบสวน จึงได้ดำเนินการสืบสวนทางสื่อโซเชียลต่างๆ จนทราบว่า ผู้ต้องหาสองสามีภรรยานี้ ได้ไปทำางานอยู่ที่ Cheongbuk-myeon, Pyeongtaek-si, Gyeonggi-do, Korea ประเทศเกาหลีจึงได้ทำหนังสือจากกองกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมากองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเรื่องขอความอนุเคราะห์ติดตามผู้ต้องหลบหนีต่างแดนจากนั้นประสานตำรวจของเกาหลี ดำาเนินการช่วยตรวจสอบข้อมูล จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจเกาหลีได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ในข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตหมดอายุ”และทางการเกาหลีจะต้องทำาการสอบสวนความผิดและดำเนินการผลักดันกลับมายังประเทศไทย

ต่อมาจึงได้ทำาการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองการต่างประเทศ เพื่อประสานงานในการรับตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ถูกพลักดันจากประเทศเกาหลีและเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้วยเอกสารการเดินทางชั่วคราว และจะถึงประเทศไทยช่วงกลางคืน จึงได้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหา 2 รายดังกล่าวอยู่ในรายชื่อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับนาน และมีค่าหัวจำนวนหัวละ 8 หมื่นบาทอีกด้วย

สอบถามหนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักสองผัวเมียดังกล่าวในหมู่บ้านเพราะเป็นคนในหมู่บ้าน ซึ่งได้มีติดต่อมากับตนเองว่าสนใจไปทำงานต่างประเทศไหมเงินเดือนเยอะ ค่าตอบแทนเยอะ ตนจึงเกิดความสนอยากไปทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ต้องบอกว่าให้ตนวางเงินประกันในรอบแรกเป็นเงิน 6 หมื่นบาท อ้างว่าเป็นเงินค่าประกันและค่าติดต่อ ต่อมาก็ได้มีการมาเก็บเงินกับตนอีก 1 แสนบาทอ้างว่าเป็นเงินค่าเครื่องบิน ค่าพาร์ตสปอส ตนจึงหลงเชื่อให้เงินไป จนกระทั่งก็รอมาได้สักระยะแต่ไม่มีการติดต่อกลับมาเลย ตนจึงคิดว่าโดนหลอกอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องราวนี้ก็ 10 ปีมาแล้ว แต่ก็อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามตัวผู้ต้องหามาดำเนิคดีให้ได้ในที่สุด

ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นายกฯ” ควง “พิมพ์ภัทรา-ไชยา” ลุยจันทบุรี-ระยอง รับฟังปัญหาชาวสวนทุเรียน
โซเชียลรีวิวขึ้นรถทัวร์ จองตั๋ว VIP ชั้น 1 อุบลราชธานี – กรุงเทพ ได้ที่นั่งเหมือนผู้ประสบภัย ล่าสุดบขส. ฟันโทษปรับ 5 หมื่นบาท
"มงคลกิตติ์" ดีใจเป็นสมาชิก “ประชาธิปัตย์” แล้ว ลั่นพร้อมทำงาน มั่นใจพรรคจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ผวา โจรวิปริต "ขืนใจยาย" วัย 60 ปี กลางไร่มันฯ จว.นครราชสีมา อึ้งพบข้อมูลก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายครั้ง วอนตร.เร่งจับคนร้าย
"เกณิกา" เผย "กระทรวงดีอี" ไม่นิ่งเฉย เร่งปราบเว็บพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
กระบะฝ่าไฟแดง พุ่งเสยรถจอดติดไฟแดง กลางเมืองศรีราชา พังเสียหาย 4 คันรวด
"ผู้การแต้ม" เตือน "บิ๊กโจ๊ก" ระวังทำผิดกม.เพิ่ม ย้ำรักษาการผบ.ตร. สั่งให้ออกจากราชการ ทำถูกกม.ทุกประการ
วงจรปิดจับชัด ลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" ปลดป้ายหน้าห้องทำงาน พร้อมขนของออกจากสำนักงาน
ร้อนทะลุ 42 องศาฯ "ควาญช้าง" เฝ้าระวัง อาบน้ำให้วันละ 8 ครั้ง กังวลช้างหงุดหงิด คลั่ง
"สันติสุข" ชี้ทำทีวีไม่ง่าย แบกรับต้นทุน ขอบคุณแฟนข่าว เจ้าของสินค้า นำพา Top News ทำหน้าที่สื่อต่อไป

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น