ยูเครนจัดชุดใหญ่ ถล่มกลับรัสเซีย

ยูเครนตอบโต้การโจมตีของรัสเซีย ถล่มกลับเข้ากลางเมืองเบลโกรอด ด้านกลาโหมรัสเซียเผย ยูเครนใช้คลัสเตอร์บอมบ์โจมตี ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้าม

กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของภูมิภาคไบรอันสค์และเบลโกรอด ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยูเครนได้ส่งจรวดและโดรน เข้าไปยังภูมิภาคไบรอันสค์และเบลโกรอดของรัสเซีย ในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยที่ภูมิภาคไบรอันสค์ ทางการได้สกัดโดรนกามิกาเซ่ไปได้หลายลำ ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขณะที่เบลโกรอด ที่อยู่ห่างจากชายแดนติดกับยูเครนประมาณ 30 กิโลเมตร ทางการสกัดขีปนาวุธไปได้ 13 ลูก แต่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 21 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากถึง 111 คน

ด้านนายเวียเชสลาฟ กลัดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอด ออกแถลงการณ์ระบุว่า เราประสบกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่หนักที่สุดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา การโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์มากกว่า 100 คัน รวมถึงร้านค้า และห้างสรรพสินค้าอีกหลายแห่ง ทางการกำลังประเมินความเสียหาย และขอบเขตความจำเป็นในการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรากำลังดำเนินการตรวจสอบแบบอาคารต่ออาคาร โดยขอให้ผู้อยู่อาศัยออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เสียหาย เพื่อสร้างศูนย์ที่พักชั่วคราว ทั้งนี้ ทางการได้ตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมสาธารณะต่างๆ งานเฉลิมฉลองทั้งหมดในทุกดินแดน ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน ถูกยกเลิก

ขณะที่พลตรีอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ก็ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีอย่างรุนแรงในเมืองเบลโกรอด จะไม่หลุดรอดจากการพ้นโทษไปได้ ผลที่ตามมาของการโจมตีเมืองโดยตรง จะรุนแรงยิ่งกว่านี้อย่างนับไม่ได้ ยูเครนเป็นผู้ก่ออาชญากรรมนี้ เพื่อพยายามหันเหความสนใจไปจากความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นในแนวหน้า รวมทั้งยั่วยุให้รัสเซียดำเนินการที่คล้ายกัน แต่กองทัพรัสเซียเน้นย้ำเสมอว่า มุ่งเป้าไปที่หน่วยทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น

ต่อมา ทางกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ก็ออกแถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมระบุว่า ยูเครนใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำโจมตีเบลโกรอดของรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือระบบออลคาของยูเครน ซึ่งสามารถยิงจรวดนำวิถีออกไปได้ 12 ลูกในการโจมตีครั้งเดียว และโจมตีเป้าหมายที่ระยะสูงสุด 70 ถึง 130 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯยังได้ระบุอีกว่า จรวดออลคาได้ติดตั้งหัวรบแบบคลัสเตอร์บอมบ์ ก่อนที่จะยิงใส่เบลโกรอด ซึ่งทำให้มีกระสุนย่อยขนาดเล็กหลายสิบลูกในคลัสเตอร์บอมบ์ กระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ และทำการระเบิดขนาดเล็กออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งคลัสเตอร์บอมบ์นี้ เป็นอาวุธต้องห้ามในกว่า 110 ประเทศ ภายใต้อนุสัญญาของสหประชาชาติในปี 2008 เนื่องจากเป็นอันตรายต่อพลเรือน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จันทบุรี ไม่เป็นความจริง ! จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"แม่ทัพภาคที่ 2" สวนกลับ "โฆษกกลาโหม" กัมพูชา ยัน “ช่องอานม้า” เป็นแผ่นดินไทย ซัดเขมรละเมิด MOU43
"สหรัฐ" ร่วมฉลอง "วันชาติโมร็อกโก" ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ "โมร็อกโก" บนพื้นที่ซาฮาร่า
"กองทัพไทย" ประณาม “กัมพูชา” ปล่อยทิ้งร่างทหารคาสนามรบ ซัดไร้มนุษยธรรม ละเมิดเกียรติศักดิ์ศรีผู้เสียชีวิต
ผู้ประกอบการตราดกระทบหนัก จี้ ภาครัฐเยียวยา ช่วยเหลือทั้งให้สินเชื่อและชะลอจ่ายสินเชื่อ เพิ่มมาตรการภาษีและขาดแรงงาน
"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​