เมื่อเวลา 17.45 น. ของวันที่ 21 ธ.ค. 66 ร.ต.ท.พงศ์พิสุทธิ์ มหาเศรษฐวรกุล รองสว.สอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งมีคนฟันกันตาย ภายใน ซอยสำนักสงฆ์ ชุมชนหนองกระจง ม.4 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับได้รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ธนพล กลิ่นเกษร ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ พร้อมกำลังชุดสืบสวน และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนาย เจษฎา ดาศรีจันทร์ อายุ 38 ปี พร้อมอาวุธมีดอีโต้ หลังนั่งรอมอบตัว โดยมีบาดแผล ที่บริเวณศีรษะ หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟัน คอนายทวี หมู่หัวนา อายุ 43 ปี ในสภาพคอเกือบขาด นอนตายคาที่อยู่ริมถนน ใกล้กันพบ นางสาว ทองกร ภูมิมิพันธ์ อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตายและลูกชาย 2 คน นั่งร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม นายชุมพล มีชะนะ อายุ 46 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า นายทวี หมู่หัวนา อายุ 43 ปี คือสามีเก่าของ นางสาว ทองกร ภูมิมิพันธ์ ส่วน นาย เจษฎา ดาศรีจันทร์ คือ สามีใหม่ ทั้งคู่ได้มานั่งดื่มสุราเพื่อเคลียร์ใจ กันถึงเรื่องเมียและลูกชาย โดยสามีเก่าต้องการจะนำลูกคนเล็กของตนเองไปเลี้ยง ก่อนจะมีปากเสียงถึงเรื่องภรรยา ว่าสามีใหม่มาแย่งไป ก่อนทั้งคู่จะเปิดศึกใช้มีดและท่อนไม้ เข้าตะลุมบอลกัน ก่อนที่ นายทวี หมู่หัวนา สามีเก่าจะพลาดท่า ถูกนาย เจษฎา ดาศรีจันทร์ ซึ่งเป็นสามีใหม่ ฟันเข้าที่คอจนเกือบขาดเสียชีวิตคาที่
ด้าน นาย เจษฎา ดาศรีจันทร์ สามีใหม่ ผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ผู้ตายได้นัดมาพูดคุยกันถึงเรื่องภรรยาและลูกๆ ก่อนที่จะมีปากเสียงโดยผู้ตายได้นำท่อนไม้และมีด ออกมาทำร้ายตนก่อน แต่ตนหลบทันก่อนจะใข้มีดอีโต้ ป้องกันตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายได้เคยมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ถึง 2 รอบแล้ว โดยผู้ตายได้ทำร้ายตน ถึง 2 ครั้ง โดยใช้ไม้ตีหัวตนจนแตก ถึง 2 ครั้งแต่ตนไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมยกมื้อไหว้ขอโทษ ทุกครั้ง เพราะรู้ตัวเองว่าผิด ไปเอาเมียเข้ามา แต่เมียเขาเลือกที่จะมาอยู่กับผม จึงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่วันนี้ตนทนไม่ไหว จึงได้ตอบโต้จนพลั้งมื้อ ฟันเข้าที่คอจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ ก่อนจะควบคุมตัว นาย เจษฎา ดาศรีจันทร์ สามีใหม่ ผู้ก่อเหตุไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนศพผู้เสียชีวิต ได้ให้เจ้าหน้าที่นำร่าง ส่งชันสูตร ยัง รพ.สัตหีบ กม.10 พร้อมเรียกภรรยาเก่าผู้ตาย และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุการทะเลาะวิวาท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
