“ครูชัยยศ” เปิดใจขายที่ดินสู้คดี ยันไม่เกี่ยวข้องจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันเด็ก

"ครูชัยยศ" เปิดใจขายที่ดินสู้คดี ยันไม่เกี่ยวข้องจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันเด็ก

วันที่ 8 ธ.ค. 66 นายชัยยศ สุขต้อ อายุ 57 ปี อดีตครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนบ้านยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกคำสั่งปลดออกจากราชการหลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีเซ็นตรวจรับงบอาหารกลางวันเด็กที่มีการทุจริต เปิดใจกับทีมข่าวบอกว่าไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมาตลอดชีวิตราชการด้วยเจตนาดี จะมีผลลัพธ์คือถูกปลดออกจากราชการ หลังจากถูกปลดออกก็มีความเครียด ไหว้พระไม่จบก่อนนอน เหมือนความฝันว่าเราโดนขนาดนี้เลยหรือกับความตั้งใจตั้งมั่นที่ทำมาตลอดการทำงาน 26 ปี เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบมากมายทั้งสภาพจิตใตและยังต้องเสียเงินมากมายในการต่อสู้เรียกร้องคืนความยุติธรรม ล่าสุดได้ขายที่ดินสวนลำไยของที่บ้าน 1.5 ไร่ 150,000 บาท เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้ง ตั้งทนายความ ค่าเอกสาร และ ค่าเดินทาง

 

 

ครูชัยยศ บอกว่า จะใช้หนังสือคำสั่งของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนที่สั่งให้ตนเองทำหน้าที่ในการตรวจรับรายการอาหารและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งหลักฐานอีกส่วนหนึ่งจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และ ผลงานคุณงามความดีในการทำงานที่ผ่านมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่และยังใช้งบประมาณส่วนตัว ไม่เคยคิดทุจริตโกงกิน เป็นหลักฐานในการอุทธรณ์และต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับประเด็นที่มีการร้องเรียนว่าการเกลี่ยงบอาหารทำให้อาหารเด็กเล็กลดลงและด้อยคุณภาพ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางโรงเรียนจัดอาหารให้กับเด็กเล็กและเด็กมัธยมได้กินอิ่มและเพียงพอ เด็กบอกว่าอาหารดีกว่าที่บ้านที่บางทีต้องกินข้าวกับเกลือกับน้ำปลา โดยในเรื่องอาหารกลางวัน ในโรงเรียนขยายโอกาสทาง สพฐ.ไม่ได้จัดสรรงบอาหารกลางวันให้เด็กมัธยม ในทางปฏิบัติก็ต้องมีการแบ่งปันและเป็นการบริหารของแต่ละโรงเรียน

 

ครูชัยยศ บอกว่า กรณีที่ ป.ป.ช. แถลงยืนยันว่าตนเองต้องรับผิดในฐานะเป็นกรรมการตรวจรับเนื่องจากต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบก่อนเซ็นรับ มองว่าไม่ยุติธรรมและเป็นการตัดสินที่เร็วเกินไปและไม่ละเอียด ตนเองเข้าใจว่าเป็นเอกสารการตรวจรับรายการอาหาร แต่ยอมรับว่าไม่มีความรู้ในเรื่องเอกสารเหล่านี้ ตัวเองเรียนครูมาก็ไม่ได้มีความรู้และความถนัดเกี่ยวกับเรื่องการเงินหรือพัสดุ แต่เมื่อทางโรงเรียนมีครูน้อย เมื่อมีคำสั่งก็ไม่มีสิทธิฝ่าฝืนอะไรได้ โดยคิดว่าไม่ยาก แค่เซ็นชื่อตรวจรับตามรายการที่ส่งมาให้เท่านั้น

 

 

ขณะที่คำสั่งของ สพป.เขต 5 เข้าใจว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลมาก็มีแค่สองทางเลือกคือไล่ออกหรือปลดออก แต่หากมองเจตนาของตนเองแล้ว แค่ตัดหรือลดขั้นเงินเดือนก็ไม่ควรโดนด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้ควรต้องมองเจตนาเป็นสำคัญ ส่วนที่ต้องมารับผิดเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจครูที่ทำหน้าที่ทำงบประมาณจัดซื้อหรือไม่ ครูชัยยศบอกว่าไว้ใจทุกคน ไม่เคยระแวงใครและไม่เคยรู้ด้วยว่ามีการทุจริต

 

ครูชัยยศ เชื่อว่ายังมีครูอีกหลายคนที่ทุ่มเทเสียสละแต่ต้องมาประสบชะตากรรมเดียวกันกับตนเอง ฝากถึงรัฐมนตรีศึกษาธิการให้ความเมตตาด้วย ที่ผ่านมาทำงานตามลำพัง ทำดีไม่หวังผลตอบแทน แต่วันนี้รู้สึกน้อยใจ วันนี้ตนเองอาจมีรอยยิ้มกับคนรอบข้าง แต่พอตกกลางคืนก็คิดมากนอนไม่หลับ ตนเองเป็นข้าราชการแต่วันนี้อาชีพกลับย้อนมาทำลายตัวเองแล้วจะหาความภูมิใจตรงไหนจากความเป็นข้าราชการไทย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สัตว์ป่าร่วม 'ปาร์ตี้กินน้ำ' สู้อากาศร้อนจัดในซินเจียง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวบ้านฮีโร่! ฝ่าน้ำท่วมช่วย 3 ชีวิตติดรถในกว่างซี
ชุมพร ประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมริ่ว
"ผู้การฯ บุรีรัมย์" ยันผู้ต้องสงสัยชาวเขมร "วิน ดา" ผิด 2 ข้อหา มีอาวุธปืน-อยู่ไทยเกินกำหนด ให้การภาคเสธ ตร.สอบเข้มก่อนฝากขัง
3 นิ้วโดนคุกระนาว คดีป่วน "ตชด.ภ.1 ปี 64" จี้ปล่อยตัวทะลุฟ้า “เพนกวิน” โดน 2 ปี ไม่รออาญา เจอปรับอ่วมรวม 3 แสน
บุกตรวจโรงงานพลาสติกบ้านบึง พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 32 ราย ดำเนินคดีทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​