นายเจมส์ เอลเดอร์ โฆษกองค์การเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ (UNICEF) ได้ออกมากล่าวว่า ในบริบทปัจจุบันของสิ่งที่เรียกว่า เขตปลอดภัย สิ่งนี้ไม่ใช่วิทยาศาสตร์, ไม่มีเหตุผล, และเป็นไปไม่ได้ ตนเห็นแต่ความใจดำ ความเย็นชา มันคือการตอกย้ำถึงความเฉยเมยต่อเด็กและสตรีในฉนวนกาซา และตนก็ได้เห็นถึงในโรงพยาบาล จากตอนใต้สู่ตอนเหนือว่า การเฉยเมยเหล่านี้ มันเป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ เขตปลอดภัยจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการรับประกันสภาพของอาหาร, น้ำ, ยารักษาโรค, และที่พักพิงได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ขาดหายไปโดยสิ้นเชิง นี่เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่แห้งแล้ง ไม่มีน้ำ, ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก, และไม่มีที่กำบังจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและฝนตก
เอลเดอร์กล่าวต่อว่า แน่นอนว่า อิสราเอลสามารถใช้มาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อปกป้องประชากรพลเรือน และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้เลือกมาตรการป้องกันไว้แล้ว นั่นคือการอพยพ ซึ่งเป็นการย้ายไปยังพื้นที่ที่ถูกเรียกว่า เขตปลอดภัย แต่ก็อย่างที่องค์การสหประชาชาติ ได้เคยกล่าวไว้ 2-3 ข้อ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนว่า เขตเหล่านี้จะไม่ปลอดภัยเลย และยังเป็นการไร้มนุษยธรรมด้วย เมื่อสิ่งนั้นเป็นการประกาศออกมาเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้ วิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในฉนวนกาซาที่ปลอดภัยอย่างแท้จริงคือ มีเพียงการหยุดยิงเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเด็กๆ ได้ ของฉนวนกาซาในขณะนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แห่งสหประชาชาติได้มีการประกาศออกมาว่า ราฟาห์ ซึ่งโดยปกติมีประชากรอยู่ประมาณ 280,000 คน จะไม่รับมือกับการไหลบ่าเข้ามาของผู้อพยพอีกต่อไป เนื่องจากมีผู้พลัดถิ่นอยู่แล้วประมาณ 470,000 คน รวมถึงส่วนบริการการสื่อสารในปาเลสไตน์ ก็ประกาศหยุดการสื่อสารอย่างสิ้นเชิงด้วย เนื่องจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอล
ขณะเดียวกัน ทางด้านขององค์การอนามัยโลก โดยนายริชาร์ด พีเพอร์คอร์น ตัวแทนขององค์การที่อยู่ในฉนวนกาซา ก็ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านการวิดิโอคอลว่า สถานการณ์เลวร้ายลงทุกชั่วโมง มีการวางระเบิดไปทั่วบริเวณพื้นที่ทางใต้ ทั้งในข่าน ยูนิส และแม้แต่ในราฟาห์ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ไปถึงฉนวนกาซานั้น ก็น้อยเกินไป องค์การอนามัยโลกมีความกังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับความเปราะบางของระบบสุขภาพ เพราะผู้คนจำนวนมากอพยพไปทางใต้เพื่อหลบหนีจากระเบิด อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกก็ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของอิสราเอลแล้ว ที่ให้นำสิ่งของออกจากโกดังในข่าน ยูนิส แต่เราก็ต้องการความแน่ใจว่า เราจะยังสามารถจัดส่งเวชภัณฑ์ที่จำเป็นได้อยู่ต่อไป
