ผู้บังคับการกองปราบปราม ชี้ พยาน 6 ปากคดี ผกก.โจ้ เปิดปากยอมรับ ลั่น ส่อผิด ม.157

ผู้บังคับการกองปราบปราม ชี้ พยาน 6 ปากคดี ผกก.โจ้ เปิดปากยอมรับ ลั่น ส่อผิด ม.157

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยขั้นตอน หลัง กองปราบปราม รับโอนสำนวนคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ กับพวก รวม 7 คน ซ้อมทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติดด้วยการใช้ถุงคลุมศีรษะเสียชีวิตมาทำคดี โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ หัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวน จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน จากนั้น ก็จะส่งสำนวนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ส่วนในทางคดี พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำตำรวจ 6 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในฐานะพยานให้การเป็นประโยชน์ยอมรับว่า ที่อยู่ในเหตุการณ์การจับกุมจริง และชุดจับกุมมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จริง แต่หลังจากนั้น จะมีพฤติกรรมอย่างไร ต้องตรวจสอบในรายละเอียด ส่วนทั้ง 6 นาย จะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 ด้วยหรือไม่ ความชัดเจนไม่สามารถเปิดเผยได้ ขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวน ที่มี พล.ต.อ.สุชาติ เป็นหัวหน้าคณะฯ จะพิจารณาความผิดดังกล่าว

ส่วนการขยายผลเส้นทางการเงินของ อดีต ผกก.โจ้ โดยเฉพาะการครอบครองรถยนต์หรูกว่า 300 คัน ขณะนี้ มอบหมายให้ กองบังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้น กรณีที่ อดีต ผกก.โจ้ เป็นผู้แจ้งจับรถกับกรมศุลกากร กว่า 300 คัน ยังไม่ได้ชี้ชัดว่า เป็นเรื่องผิดปกติ แต่ บก.ปอศ. ต้องสอบสวนอย่างละเอียดว่า ข้อมูลที่มีการเผยแพร่จริงหรือไม่ รวมทั้ง ผู้ที่นำเข้ารถหรู จะรู้เห็นเป็นใจกับ ผกก.โจ้ หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ บก.ปอศ. เช่นกัน แต่ยอมรับว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่แจ้งมายังตำรวจ และเผยแพร่สื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่พบว่า เป็นข้อมูลเก่าและไม่มีตัวตนสำหรับผู้แจ้งแล้ว แต่ตำรวจจะตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างที่ประชาชนแจ้งเบาะแสมา ส่วนที่สังคมมองว่า ตำรวจมีการช่วยเหลือกันหรือไม่นั้น ก็มองได้แต่กองปราบปราบยืนยัน ดำเนินการตามพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ส่วนกระแสข่าวที่ อดีต ผกก.โจ้ ป่วยเป็นโรคไบโพล่านั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่า เป็นก่อนหรือหลัง มีการรักษาตัวหรือไม่ การมากล่าวอ้างแบบเลื่อนลอยจะไม่มีน้ำหนักในทางคดี

ทั้งนี้ ผู้บังคับการกองปราบปราม ยังกล่าวถึงกรณีเรื่อง คนนำคลิปเหตุการณ์ ขณะทำร้ายผู้ต้องหาบนโรงพักมาปล่อยว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นคนใน หรือคนนอก แม้เรื่องจะเกิดขึ้นภายในโรงพัก แต่ยืนยันว่า การสอบสวน หากไม่พบคนปล่อยคลิป ก็สามารถดำเนินคดีได้ หากคลิปดังกล่าวไม่มีการตัดต่อ ก็ถือเป็นหลักฐานที่สำคัญและสมบูรณ์ในการดำเนินคดี

ส่วนบิดาของผู้เสียชีวิต จะมีความผิดหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ แต่ตำรวจไปสอบปากคำมาแล้ว เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำอย่างรอบคอบ รวมทั้งเรื่องบุคคลที่มาช่วยเหลือนำตัว อดีต ผกก.โจ้ มาส่ง สภ.แสนสุข นั้น ตรงนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น