พ่อเมืองศรีสะเกษ กำชับท้องถิ่นและท้องที่ ร่วมดูแลจัดลานตากข้าวช่วยเหลือชาวนา ลดใช้ถนนตากข้าว จนกระทบส่วนรวม

พ่อเมืองศรีสะเกษกำชับท้องถิ่นและท้องที่ ร่วมดูแลจัดลานตากข้าวช่วยเหลือชาวนาลดใช้ถนนตากข้าว จนกระทบส่วนรวม ขณะที่ชาวนาเผยที่ตากข้าวในวัด ร.ร.และสถานที่สาธารณะไม่เพียงพอ จำเป็นต้องตากข้าวในถนน เพราะว่าปีหนึ่งมีทำนาครั้งเดียว ควรแจ้งให้ชาวนาที่ตากข้าวในถนนทำเครื่องหมายให้รู้ว่ามีการตากข้าวบริเวณริมถนนเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จ.ศรีสะเกษ ปีฤดูกาลผลิต 2566/67 ได้รับประโยชน์สูงสุดในการจำหน่ายผลผลิตข้าวนาปี จึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบริหารจัดการลานตากข้าวให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์กับเกษตรกร ที่สำคัญป้องกันอันตรายจากการตากข้าวตามถนนหรือขอบถนน ซึ่งถือว่ากระทบต่อส่วนรวมได้ เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของประชาชน จึงขอให้นำไปตากในลานหมู่บ้านชุมชน พร้อมประสานขอตากในลานวัด หรือ บริเวณสนามโรงเรียน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ค่อนข้างมืดมาก

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวนา จ.ศรีสะเกษ มีประมาณ 3,000,000 ไร่ คาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกปีนี้ ประมาณ 1,228,000 ตัน ส่วนใหญ่เกษตรกรจะขายเป็นข้าวสด ในราคาประมาณ 10.50 – 11.50 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยว จึงขอให้เกษตรกรได้ชะลอการขายข้าว โดยให้ทำการตากและรักษาคุณภาพข้าว ซึ่งจะทำให้ข้าวมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ที่สำคัญมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนด้วย

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทางด้าน นางกัญญาณัฐ พรแก้ว อายุ 55 ปี ชาวนา ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณท่าน ผวจ.ศรีสะเกษที่ได้ใส่ใจห่วงใยในเรื่องนี้ ตนและครอบครัวทำนา 35 ไร่ ส่วนญาติพี่น้องและชาวนาคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านเดียวกันต่างพากันทำนาคนละ 10 – 30 ไร่ เพราะว่าเป็นอาชีพหลักของพวกตน 1 ปีที่ทำนาเพียงครั้งเดียว ดังนั้น เมื่อต้องทำการเก็บเกี่ยวข้าวพร้อมกันทำให้สถานที่ตากข้าวเพื่อให้ข้าวแห้งจึงมีสถานที่ไม่เพียงพอ โดยชาวนา 1 ครอบครัวจะต้องตากข้าวเปลือกให้แห้งคนละ 1 – 2 วัน ทำให้บริเวณ ร.ร. วัด และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ในบริเวณหมู่บ้านของพวกตนไม่เพียงพอต่อการให้ชาวนาใช้ในการตากข้าว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้บริเวณไหล่ถนนในการตากข้าวเพื่อให้ข้าวเปลือกแห้ง และทำให้ข้าวเปลือกมีคุณภาพที่ดี สามารถขายได้ราคาดีเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของชาวนา

 

 

 

 

นางกัญญาณัฐ พรแก้ว อายุ 55 ปี กล่าวต่อไปว่า ตนจึงเห็นว่า ชาวนาที่จำเป็นต้องตากข้าวบริเวณริมถนนในหมู่บ้านหรือถนนระหว่างหมู่บ้านว่า การตากข้าวริมถนนอาจจะเป็นการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ว่าก็เนื่องด้วยความจำเป็นของชาวนาที่ไม่สถานที่ตากข้าว ดังนั้น ตนเห็นว่า ชาวนาจะต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนผ่านบริเวณที่ชาวนาตากข้าว โดยการต้องทำเครื่องหมายแสดงให้รู้ว่า บริเวณข้างถนนมีการตากข้าว โดยอาจจะนำเอาตอซังข้าวมาวางบริเวณบนถนนก่อนที่จะถึงบริเวณที่มีการตากข้าวประมาณ 20 – 30 เมตร เพื่อเป็นการเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ทราบว่า บริเวณถนนข้างหน้ามีการตากข้าวของชาวนา เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาให้มีที่ตากข้าวในช่วงฤดูกาลผลิตข้าวปีนี้และปีต่อๆ ไปด้วย.

 

 

 

 

ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น