จังหวัดชัยภูมิ Kick off เปิดศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล โชว์ผลงานรวบแล้ว 2 ราย

ชัยภูมิ Kick off เปิดศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล โชว์ผลงานรวบแล้ว 2 ราย

( 1 พ.ย.66 ) ที่อาคารศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จ.ชัยภูมิ นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลังร่วมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภายในจังหวัด ทั้งหน่วยงานทหาร กอ.รมน. ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หน่วยงานเจ้าหน้าที่จาก ปปส.และ ปปง. ทำพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัดชัยภูมิ และปล่อยแถวสนธิกำลังที่บริเวณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อออกปฏิบัติการ (Kick off)

ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายรัฐบาล และ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 ด้านความมั่นคงภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสงบเรียบร้อย ให้เกิดกับประเทศชาติ

โดย นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในครั้งนี้ถือเป็นวันเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัดชัยภูมิ ขึ้นเป็นครั้งแรก ตามมาแผนบูรณาการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ให้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และเพื่อให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลในภาพรวมของจังหวัดชัยภูมิ บรรลุวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ก่อนหน้านี้ปลายเดือนที่ผ่านมา ทางชุดคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัดชัยภูมิ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ได้มีการพบมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ลอตแรกรวม 3 ราย และได้ออกจัดชุดสนธิกำลังออกปฏิบัติการจับกุมได้แล้ว 2 ราย ที่กระทำผิดในฐานความผิดผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ และกลุ่มกระทำผิดด้านทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในข่ายมาตรการฐานความผิดใน 16 ฐานความผิดของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่ขณะนี้เหลืออีก 1ราย อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฏหมายเพิ่มเติมโดยเร็วต่อไป รวมทั้งโดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการท้องถิ่นกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หลังเกิดกรณีกำนันนก จะไม่ให้มีเกิดขึ้นในพื้นที่โดยเด็ดขาด ซึ่งจากนี้ไปทางศูนย์ปฏิบัติการร่วมจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัดชัยภูมิ จะเร่งดำเนินการขยายผลทั้งด้านการป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้หมดสิ้นโดยเร็วต่อไป

 

 

 

ที่จะมีกลุ่มฐานความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวม 16 ฐานความผิด คือกลุ่ม 1.นายทุนปล่อยเงินกู้ 2.ฮั้วประมูลงานราชการ 3.หักหัวคิวรถรับจ้าง 4.ขูดรีดผู้ประกอบการ 5.ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี 6.เปิดบ่อนการพนัน รวมถึงการพนันออนไลน์ 7.ลักลอบการค้าประเวณีรวมถึงค้ามนุษย์ 8.ลักลอบนำคนเข้าออกประเทศโดยผิดกฎหมาย 9.ล่อลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย

 

 

 

10.แก๊งต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว 11.มือปืนรับจ้าง 12.รับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้กำลัง 13.ลักลอบค้าอาวุธสงคราม/ปืนเถื่อน 14.บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 15.เรียกรับผลประโยชน์บนเส้นทางหลวงสาธารณะ และ 16.ผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่จากนี้ไปจะมีบทลงโทษรุนแรงและหนักเพิ่มขึ้นด้วย.

 

 

 

มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคชัยภูมิ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่าฯ นำทีม ลุยถนนคนเดินกาดกองต้า เร่งประชาสัมพันธ์ “คนละครึ่ง พลัส”
โคราช เลือกตั้ง สส.เดือด จับตา “พัชราวรรณ” สวมเสื้อเพื่อไทย ทีมโคราช คนล่าสุด ผลงานไม่ธรรมดา ปัจจุบันเป็น ส.จ.โคราช สมัยที่ 2
"นิด้าโพล" ปชช.ส่วนใหญ่พอใจบทบาทกองทัพ เชื่อขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาไม่จบง่าย หนุนปิดด่านจริงจัง
เชียงใหม่ เปิด “ศูนย์รถรับ–ส่งนักเรียนปลอดภัย” แห่งแรกของภาคเหนือ
"แบงก์ชาติกัมพูชา" เต้นแรง ออกโรงแจงสถานะสินทรัพย์ สกัดแห่ถอนเงิน ผลกระทบ "ปรินซ์แบงก์" โดนสหรัฐฯ-อังกฤษคว่ำบาตร
ทุลักทุเล! ผู้สูงอายุเสียชีวิตในบ้านถูกน้ำท่วมสูง เคลื่อนร่างทางน้ำบำเพ็ญกุศล 

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​