“โบว์ ณัฏฐา” ชี้อนุกก.ดิจิทัลวอลเล็ต โยนหินถามทางฟังกระแส ก่อน “นายกฯ” ตัดสินใจ

"โบว์ ณัฏฐา" ชี้อนุกก.ดิจิทัลวอลเล็ต โยนหินถามทางฟังกระแส ก่อน "นายกฯ" ตัดสินใจ

วันที่ 26 ต.ค. 66 น.ส. ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน x (ทวิตเตอร์) ระบุว่า ที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน Digital Wallet รีบปล่อยข่าวก่อนเสนอแนวทางเลือกในการตั้งเงื่อนไขผู้รับสิทธิถึงนายกฯ ก็น่าจะเพื่อโยนหินถามทางฟังกระแสก่อนนายกฯตัดสินใจ และคิดว่าดีเหมือนกันถ้าจะใช้งบน้อยลงได้ (เพราะเงินไม่พอ) เลยเล็งเอาข้อเสนอจากกลุ่มต้านมาเป็นทางลงเสียเลย

แต่ไม่ว่าอย่างไรถ้าต้องเลื่อนไปแจกหลังสงกรานต์ จะยิ่งหาคำอธิบายยากขึ้นอีกกับคำว่า “วิกฤต” ที่ใช้เป็น keyword ในการอ้างเหตุผลมาแต่ต้น กดปุ่ม pause ตั้งหลักไปเลย จะดีกว่าตั้งเวลา

แบบตามมีตามเกิด แต่ไม่ต้องล้มโครงการ ดำเนินการระบบหลังบ้านทุกอย่างต่อไป ตั้งงบรอไว้ สถานการณ์เศรษฐกิจถึงจังหวะเหมาะจะกระตุ้นจริงๆเมื่อไหร่ค่อยกดปุ่มแจกเลย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งที่ 2 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 กระทรวงการคลัง หลังเลื่อนมาแล้ว 2 ครั้ง จากวันที่ 19 ต.ค.66 และ 24 ต.ค.66

นายจุลพันธ์ ระบุว่า แนวโน้มโครงการฯ น่าจะดีเลย์ในระดับหนึ่ง จากเดิมที่จะเริ่มแจกเงินในวันที่ 1 ก.พ.67 เนื่องจากต้องรองบประมาณแผ่นดินมีผลบังคับใช้ ชี้มีข้อดีคือ ทำให้มีกรอบเวลามากขึ้น ในการพัฒนาระบบ มีการยืนยันลงทะเบียนตัวตน ความปลอดภัยในระบบ จะมีไทม์ไลน์เพิ่มขึ้นในการสร้างความมั่นใจในระบบ ส่วนจะดีเลย์เป็นเมื่อไหร่ ขอประเมินอีกครั้ง

“ถ้าใช้เรื่องงบประมาณเป็นหลักอาจล่าช้าบางส่วน”

ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น จะมีการเสนอใช้งบประมาณปี 2567 เป็นแหล่งแรก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ มีข้อเสนอในเรื่องแหล่งงบประมาณหลายประเภท ที่ประชุมคณะอนุฯ ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์

 

 

 

ขณะที่ การใช้เงินจากธนาคารออมสิน นั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ติดขัดเรื่องกฎหมาย กรอบอำนาจหน้าที่ ไม่ได้ครอบคลุมในเรื่องการดำนินการ ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ใช้กรอบงบประมาณเป็นหลักเหมือนเดิม

สำหรับในเรื่องการทำระบบนั้น สมาคมธนาคารไทย ได้มีการมอบหมายให้ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้ทำระบบ เนื่องจากมีความพร้อม โดยงบที่ใช้ยืนยัน ไม่ใช่ 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ต่ำกว่านั้น อยู่ในระดับที่รับได้

นายจุลพันธ์ ยืนยันเงื่อนไข เป็นคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่จะมีข้อเสนอในส่วนของการตัดคนที่มีความพร้อมทางสังคม โดยอาจมีการพิจารณาจากรายได้ และหรือเงินในบัญชี ทั้งนี้ ยังมีความเห็นแตกต่างในที่ประชุม ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ซึ่งจะนำเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้ประชุมตัดสินใจในสัปดาห์หน้า

 

 

 

โดยได้เตรียมข้อเสนอ เพื่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่ได้ตัดสินใจ อาทิ ให้สิทธิเฉพาะผู้ยากไร้ ที่มีประชากรราว 15-16 ล้านคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท / ตัดผู้ที่มีความพร้อมทางสังคม กลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 25,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออก จะเหลือผู้ได้สิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.3 แสนล้านบาท / ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก จะเหลือผู้ได้สิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.9 แสนล้านบาท

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“แม่ทัพกุ้ง” ลงกระบี่ เล่าเรื่องทหารกล้าสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน
อุดรธานี จิตอาสาร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์ ประเพณีไทย และสร้างความสามัคคี
มุกดาหาร ศุลกากรภาค สนธิกำลังตรวจยึดมะม่วงเถื่อนเติมรถสิบล้อ
เพชรบูรณ์ เริ่มแล้ว! “ทริปน้ำไม่อาบ” ผู้ว่า–ผู้การ สั่งเข้มตั้งด่านทั่วจังหวัด ปชช.ครวญอย่าเลือกปฏิบัติ
รัฐมนตรี พม. เดินหน้าคุ้มครองชาวเล ย้ำสิทธิทำกิน-ที่อยู่อาศัย-ไร้สัญชาติ
ดร.แดน ส่งสัญญาณบวก อาจรับเทียบเชิญ “พรรคไทยชนะ” เสนอชื่อชิงนายกฯ ชี้ สถานการณ์ชาติเปราะบาง ต้องเร่งกอบกู้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​