ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 3 คนร้าย คดียิง “ทนายมานพ” ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ดับคาปั้มน้ำมันระยอง

ศาลอาญาฯ สั่งจำคุกตลอดชีวิต มือปืน-คนชี้เป้า-เจ้าของปืน ร่วมก่อเหตุยิง "ทนายมานพ" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ดับคาปั้มน้ำมันที่ระยอง เมื่อปี 65 ด้านพี่สาวชี้แม้ศาล จะให้ความเป็นธรรม แต่ไม่อาจทวงคืนความสูญเสีย วอนกองปราบปรามเร่งล่าตัวจอมบงการมาลงโทษควบคู่กับการกวาดล้างอิทธิพลมืดในพื้นที่

วันนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2915/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายอาญา 6 เป็นโจทก์ และน.ส.ธิษณามดี เสถียรเขตต์ โจทก์ร่วม ฟ้อง นายนิติพนธ์ ฉ่ำชื่น,นายปิติ นิชรัตน์,นายเสถียร บุญกล้า เป็นจำเลยที่ 1-3 กระทำผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ,ร่วมกันพาอาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านฯ และโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว,ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุฯ

 

 

ทั้งนี้โจทก์ได้บรรยาย คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 เวลากลางคืน จำเลยที่ 1-2 ได้ร่วมกันมีอาวุธปืน.38 ซึ่งเป็นของบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย ที่เป็นของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยทั้ง1-2 มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า แบ่งหน้าที่กันทำ ใช้อาวุธปืนดังกล่าวไปยิงนายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดังอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวน 3 นัดจนถึงแก่ความตาย ที่ปั้มนำมัน ตำบลบ้านค่าย อ.บ้านค่าย จังหวัดระยอง

 

ศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐาน แล้วเห็นว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่1-2 กระทำผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความเป็นลำดับขั้นตอน สอดคล้องกันโดยไม่มีพิรุธ ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่า จะปรักปรำ แม้คำให้การในชั้นสอบสวนจะเป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่ตามสภาพแวดล้อม แหล่งที่มา ซึ่งตำรวจเป็นผู้สอบสวนและข้อเท็จจริง โดยจำเลยที่2 ให้การรับสารภาพโดยสมัครใจ ซัดทอดจำเลยที่1 ว่ามีส่วนในการวางแผน การกระทำผิดด้วยอย่าง การเข้าพักที่รีสอร์ทห้องเดียวกัน มีการพาไปดูสถานที่ก่อเหตุ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุด เห็นว่าหลังจากที่จำเลยที่2 ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นตายแล้วได้ทิ้งรถจักรยานยนต์และไปขึ้นรถยนต์ที่จำเลยที่1 ขับรถยนต์มารับ ดังนั้น จึงรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่2ใช้อาวุธของผู้อื่นมายิงผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่าแบบไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่ได้อยู่ใกล้ กับสถานที่เกิดเหตุ พอจะให้ความช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวก จึงถือไม่ได้ว่า จำเลยที่หนึ่งกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่2 แต่เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ คือพฤติการณ์ของจำเลยที่1 ที่พาจำเลยที่2 ไปดูสถานที่ก่อเหตุจัดหารถจักรยานยนต์ นัดหมายเพื่อหลบหนี มอบอาวุธปืนให้จำเลยที่2 จึงเป็นการช่วยเหลือ ให้ความสะดวกจำเลยที่สอง ในการกระทำผิดจำเลยที่1 จึงมีความผิดฐานสนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา 289 (4) จำเลยที่สามมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่จำเลยที่2 ใช้ใช้ก่อเหตุ เนื่องจากจำเลยที่ 3เป็นผู้ซื้อปืนและครอบครองอย่างถูกต้องโดยอ้างว่าจะนำไปให้บุตรชายป้องกันตัว จากนั้นได้ฝากภรรยาเก็บไว้และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีก ซึ่งคำเบิกความของจำเลยที่3 มีน้ำหนักน้อย เชื่อว่าจำเลยที่3ได้นำอาวุธปืนไปมอบให้กับคนร้ายเพื่อให้จำเลยที่2 ไปยิงผู้ตาย จำเลยที่3 จึงมีความผิดฐานสนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

พิพากษาว่า จำเลยที่1-3 มีความผิด การกระทำความผิดของจำเลยที่1-2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำเลยที่1 ให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานเป็นผู้ ผู้สนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่2 ให้ลงโทษประหารชีวิต ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่จำเลยที่2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุให้บรรเทาโทษ คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่3 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้แก่โจทก์ร่วมจำนวน 2,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละห้าต่อปีนับแต่วันที่ละเมิด (15 ส.ค.65)

 

 

 

ด้านนางศัณนีย์ เจริญศึกษา พี่สาวของทนายมานพ เปิดเผยว่า ผลคำพิพากษาถึงแม้จะได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่สามารถชดเชยการเสียชีวิตของน้องชายได้ ดังนั้นครอบครัวจะเดินหน้าเพื่อหาความจริงว่าใครเป็นผู้จ้างวาน ซึ่งขณะนี้คดียังคงอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม ทางครอบครัวก็จะมีการติดตาม อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากไปถึง กระทรวงมหาดไทย ที่มีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ขอให้มีการตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่มีผู้มีอิทธิพลอยู่ในจังหวัด ซึ่งเกรงว่าจะทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนตัวก็ยอมรับว่า กลัว กับภัยที่จะคุกคามถึงชีวิตต้องต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่ตนเกิดมาครั้งเดียว ตายครั้งเดียว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดระยอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เอ็นดู! ลูกช้างเอเชียป่าเล่นซุกซนอ้อนแม่ในยูนนาน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวจีนหันมาปั่น'จักรยาน'มากขึ้น ปลุกกระแสเดินทางคาร์บอนต่ำ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดบ้านกองทัพอากาศ-งานฉางชุน แอร์โชว์
โรงพยาบาลหาดใหญ่ร่วมมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่าตัดผู้ป่วยด้วยเทคนิค PMEG EVAR สำเร็จเป็นครั้งแรก
ชุมพรบุกปิดร้านสแกนม่านตาแลกคริปโท หวั่นข้อมูลรั่ว-หลอกลวงประชาชน
เตรียมเปิดแหล่งเที่ยวใหม่เขาใหญ่ อุทยานฯ เขาใหญ่ ลงพื้นที่สำรวจ "น้ำตกเหวอีอ่ำ" เตรียมพัฒนาเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​