“เศรษฐา” ไม่หวั่นกระแสสังคม ผุดฉายา “นายกฯส้มหล่น-นายกฯตระบัดสัตย์” ขอทำตามสัญญากับปชช.

ดังนั้น แรงบันดาลใจเป็นหน้าที่ของผู้นำ เป็นภารกิจหลักที่ผมแบกไว้ ผมต้องนำเสนอให้ได้ภายใน 4 ปี ทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าไม่มีความหวัง ไม่มีแรงบันดาลใจ อีก 4 ปีไปใช้สิทธิ์สะท้อนเสียงออกมา และการทำงานของผมเป็นการเทหมดหน้าตัก ไม่มีก๊อกสอง ผมเต็มที่ทุกเรื่องในการทำงานและแก้ไขวิกฤตให้กับประชาชนและประเทศ เมื่อถามว่า ได้คุยอะไรกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก่อนขอลาออก นายกฯ กล่าวว่า ผมชื่นชม เพราะเขาเป็นคนแข็งแกร่ง มีจุดยืนชัดเจน ไม่โกรธที่ตนทำแบบนี้ เขาจะแนะนำให้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง เตือนว่าการทำงานหนักจะต้องทำไปเรื่อยๆ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ครบทุกภาคส่วน

จากนั้นผู้ดำเนินรายการได้สอบถามถึงเรื่องการไหว้สวย และการตั้งใจไหว้ของนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า คุณแม่สอนไว้ การไหว้เป็นเรื่องที่สำคัญ เวลาเราไปเจอคนแล้ว เป็น first impression เป็นการเริ่มต้นที่ดี เป็นการให้เกียรติ ให้ความเคารพทั้ง 2 ฝ่ายได้ดี ไม่ว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจใหญ่ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นชาวบ้านก็ตาม เราต้องให้ความเสมอภาคตรงนี้ เมื่อถามว่า คุณแม่สอนหลักคิดอะไรอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “พยายามทำตัวไม่ให้เป็นภาระกับใคร จะไปไหน ทำอะไร ต้องพยายามช่วยตัวเองให้เยอะที่สุด ไม่ต้องมีการต้อนรับองคาพยพที่มากนัก แม้อายุจะมากแล้วแต่ไม่อยากให้เป็นภาระ สังคมแบกรับภาระมาเยอะแล้ว อยู่มาขนาดนี้แล้ว มีความสุขขนาดนี้แล้ว ไม่อยากให้เป็นภาระสำหรับทุกๆ คน”