No data was found

“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ยืนกรานทำถูกต้อง ร้องศาลรธน.วินิจฉัยโหวตซ้ำ “พิธา”

กดติดตาม TOP NEWS

“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ย้ำตรวจสอบรัฐสภาครบองค์ประกอบ ส่งไม้ต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ ชี้ผู้ร้องเรียนเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพโดยตรง ยันใช้อำนาจอย่างเที่ยงธรรมและเป็นกลาง

 

28 ก.ค.2566 พันตำรวจโทกีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้แจงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอญัตติเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำ ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และขอให้ศาลกำหนดมาตรการชั่วคราว ให้มีคำสั่งชะลอการให้ความเห็นชอบบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอำนาจอื่นที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 46 และมาตรา 48 เมื่อบุคคลถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้จากการกระทำของหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ถูกละเมิดสิทธิสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องยื่นเรื่องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน และเป็นหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

พันตำรวจโทกีรป กล่าวต่อว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วินิจฉัยว่าคำร้องดังกล่าว เข้าองค์ประกอบ เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ ในการเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยผู้ร้องเรียนส่วนหนึ่งเป็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หากมติตีความดังกล่าวของรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิทธิของผู้ร้องเรียน และยังสร้างแนวบรรทัดฐานที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หากไม่มีการยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน ย่อมเล็งเห็นได้ว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาต่อสิทธิของผู้ร้องเรียน อีกทั้งในส่วนผู้ร้องเรียนซึ่งเป็น ส.ส.และมีหน้าที่โดยตรงในการเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี

 

หากมติตีความของรัฐสภาข้างต้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้ร้องเรียน ทำให้ผู้ร้องเรียนลงคะแนนเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียงครั้งเดียวในสมัยประชุมเดียวกัน อีกทั้งหากรัฐสภาลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย แต่ต่อมาภายหลังแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของรัฐสภาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แต่ผู้ร้องเรียนก็ไม่อาจจะใช้สิทธิลงคะแนนเลือกบุคคลที่ได้เคยเสนอชื่อต่อรัฐสภาได้อีกต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายเช่นเดียวกัน

 

 

เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุอันมีน้ำหนักรับฟังได้ มีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอ และเป็นคำขอที่อยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 71 จึงเห็นพ้องกับคำร้องเรียนที่จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณามีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีข้อวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมา ซึ่งก็เป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“แม่น้องไนซ์” บุกโรงพักแจ้งจับพม. โวยคุกคามลูก แจง“วิปัสสนา” คือ “ซูม”
"รุ้ง-มายด์" นำทีมกลุ่มทะลุฟ้า ยื่นหนังสือร้องรัฐบาล ปล่อยตัวนักโทษ 112 เล่นใหญ่จี้นายกฯต้องรับผิดชอบปม "บุ้ง" เสียชีวิต
นักวิจัยค้นพบสาเหตุเกิดลิ่มเลือดอุดตัน จากวัคซีนโควิด
ไอร์แลนด์เตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์ –แอฟริกาใต้ร้องศาลโลก
สหรัฐ ไบเดน-ทรัมป์ ประกาศร่วมศึกดีเบท
อินโดนีเซีย เครื่องบินไฟไหม้ ลงจอดฉุกเฉิน
กกต.ระยอง จัด Kick off การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา '20 กลุ่มอาชีพ ร่วมใจ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน' ภายใต้กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
สาวขับรถยนต์เหยียบเบรคไม่อยู่ รู้ตัวอีกทีไฟลุกควันท่วมห้องเครื่องกลางถนน พลเมืองดีช่วยดับวุ่น
จังหวัดเลย เจอพิษภัยแล้ง ทำผลผลิตมะม่วงบุฮม ลดฮวบกว่า 50 %
"นายใหญ่" แสดงฤทธิ์เดชเหนือ "รัฐบาล" ฟอกขาวคดีจำนำข้าว ตั้ง "รมต.สายล่อฟ้า" ล่อเป้าฝ่ายตรงข้ามรุมถล่มจุดอ่อนรัฐบาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น