ด่วน มติศาลรธน.สั่ง “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. โดนร้องผิดถือหุ้นสื่อไอทีวี

ด่วน มติศาลรธน.สั่ง "พิธา" หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. โดนร้องผิดถือหุ้นสื่อไอทีวี

จากกรณีที่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่าจะมีการประชุม ในวันที่ 19 ก.ค.2566 โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา คำร้องที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ โดยอยู่ระเบียบวาระที่4 เรื่องพิจารณาที่ 23/2566) โดยมีการระบุหมายเหตุ พิจารณาขยายระยะเวลาการเสนอความเห็นของคณะตุลาการ คณะที่ 1 ต่อศาล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31 พิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย หรือไม่

 

ทั้งนี้โดยกระบวนการพิจารณาคุณสมบัติ ส.ส. ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลฯ มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว ก็จะพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงตามคำร้อง และหากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องจริง ก็จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน รวมทั้งอาจสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งเอกสารเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาวินิจฉัยด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยวันนี้ (19 ก.ค.) เป็นวันเดียวกับการที่ นายวันมูหะมัดนอร์มะทา ประธานรัฐสภานัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งที่ 2 โดยพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคกำลังพิจารณาถึงการเสนอชื่อ นายพิธา หัวหน้าพรรรคและแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล ให้ที่ประชุมรัฐบาลโหวตลงมติอีกครั้งนั้น

 

 

 

ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายก รัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา101(6)ประกอบมาตรา 98 (3)หรือไม่จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น โดยเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง และพ.ร.ปว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 75 โดยให้นายพิธาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้เข้ากล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 54

 

 

สำหรับคำขอของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา อาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภาและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้จึงมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่สส.ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค 66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

 

 

ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 12ก.ค. ที่ประชุมกกต.มีมติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 1 เห็นว่ากรณีมีหลักฐานปรากฏว่านายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดในวันสมัครรับเลือกตั้งอันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส.และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.สของนายพิธาสิ้นสุดลง จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย และได้มีการยื่นคำร้องในบ่ายวันเดียวกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลีดเดอร์ชิพโพลล์" ม.รังสิต เผยปชช.ส่วนใหญ่ ไม่เชื่อศักยภาพรัฐบาล แก้ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา "กองทัพไทย" ได้รับเชื่อมั่นสูง
คปท.ชุมนุมหน้าทำเนียบ กดดัน "นายกอิ๊งค์" ลาออก เซ่นคลิปเสียงคุย "ฮุนเซน"
โฆษกฮุนเซนเย้ยไม่มียุคใดที่ไทยจะกลัวกัมพูชาเท่ายุคฮุนเซน
"สรรเพชญ" ซัดแรง "นายกฯ" ผลักกองทัพเป็นฝ่ายตรงข้าม อ้างแค่เทคนิคเจรจา – ถามกลับ แล้วความจริงอยู่ตรงไหน?
"นายกฯ" โผล่ทำเนียบฯแล้ว เรียกรมว.คลัง-กต.เข้าพบ คปท.จัดกิจกรรมขับไล่
"หนูนา กัญจนา" ลั่นจุดยืนเหมือนพ่อ เชื่อหัวหน้าพรรคชทพ.จะตัดสินใจชัดเจนทำสิ่งควรทำ
ด่วน "นายกฯ" เรียกประชุมผบ.เหล่าทัพ เคลียร์ปัญหาคลิปเจรจา "ฮุนเซน" หลุดพาดพิง "แม่ทัพภาคที่2" เป็นฝ่ายตรงข้าม
"ดร.สามารถ" ชี้ถึงเวลา "ปชป." ต้องถอนตัว รักษาเกียรติพรรค คลิปเจรจา 2 ผู้นำ สะท้อนภาพเอาใจกัมพูชา ไม่ใช่เทคนิคเจรจา
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทุบสถิติ! จีนจัดทัพ 'โดรน' กว่าหมื่นลำอลังการเหนือท้องฟ้าฉงชิ่ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) รถไฟจีน–ลาว ดันทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดจีนง่ายขึ้นในราคาถูกลง .

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น