แพทย์ รพ.รามาฯ วอนทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง หลังม็อบกระทบผู้ป่วย- เจ้าหน้าที่บุคลากร

แพทย์รพ.รามาธิบดี วอน ทุกฝ่ายหาทางออกโดยสันติวิธี ปราศจากความรุนแรง หลังการชุมนุมกระทบ ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ บุคลากร โรงพยาบาลรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ

นพ.สุรเวช น้ำหอม ศัลยแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงสถานการณ์ชุมนุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุข้อความว่า การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นอย่างไร หลายท่านคงจะได้เห็นแล้วจากสำนักข่าวต่างๆ ที่รายงานออกมา แต่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบเช่นกันว่าโรงแรมบางแห่งบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัย ได้ถูกใช้เพื่อเป็น Hospitel เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดมาตั้งแต่ที่การระบาดเริ่มมากและโรงพยาบาลเริ่มเตียงเต็ม และได้มีคนไข้ที่รักษาจนหายกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวได้หลายพันคนแล้ว

 

Hospitel เป็นสถานที่ช่วยดูแลคนไข้ที่ติดเชื้อโควิดที่อาการยังไม่หนัก โดยจะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์และพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในสถานการณ์ที่การระบาดหนักเหมือนทุกวันนี้ คนไข้ที่รักษาที่ Hospitel ก็มีอาการค่อนข้างหนักเมื่อเทียบกับช่วงแรกของการระบาด กล่าวคือมีคนไข้ที่ต้องการการให้ Oxygen และการดูแลอย่างใกล้ชิดจำนวนมากขึ้น

 

ทีมแพทย์และพยาบาลและเจ้าหน้าที่ของรามาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเหนื่อยยากมาตลอด เวรที่ Hospitel จะทำงานกันผลัดละ 12 ชั่วโมง ด้วยที่คนไข้มีจำนวนมากและเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ทำให้เจ้าหน้าที่ในแต่ผลัด ทำงานกันแบบไม่ได้หยุดพักเลย เมื่อครบ 12 ชั่วโมงจึงเหนื่อยล้ามาก แต่จากสถานการณ์ที่มีการชุมนุมและมีความรุนแรงเกิดขึ้นโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้ทีมแพทย์และพยาบาลไม่สามารถผลัดเวรกันได้ คือเดินทางออกจาก hospitel ก็ไม่ได้และเดินทางเข้ามายัง Hospitel ก็ไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องอยู่เวรกันต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถทิ้งคนไข้ไปไหนได้

 

การทำงานที่ต้องเสี่ยงด้วยตัวเองอยู่แล้วเพราะต้องรักษาคนไข้ติดเชื้อโควิด และต้องเสี่ยงจากการเดินทางและความไม่แน่นอนในเรื่องการปลอดภัยอีก ทำให้บุคลากรทุกคนจึงมีความวิตกกังวลในการทำงานอย่างมาก เพราะมีโอกาสทั้งอันตรายจากลูกหลงที่เกิดขึ้นจากความรุนแรง ที่ก็ไม่มีทางทราบว่ามาจากฝ่ายไหน ตอนนี้สถานการณ์โควิดก็ยังมีการติดเชื้อจำนวนมาก คนไข้ต้องการเตียง Hospitel ก็ยังมีตลอดเวลา แต่จากความรุนแรงและความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น ทำให้การตัดสินใจการรับคนไข้และการทำงานของทุกฝ่ายเป็นไปได้อย่างยากลำบาก

 

ดังนั้นหากทุกฝ่ายสามารถหาทางออกที่ปราศจากความรุนแรงได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี คนไข้ติดเชื้อโควิดทุกคนที่ทำการรักษาอยู่และยังต้องการเตียง Hospitel ก็ล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องของใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มาชุมนุมหรือเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานหรือแม้แต่ผู้ที่สร้างความรุนแรงเองก็ตาม จึงขอความเห็นใจจากทุกฝ่าย ช่วยพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในการทำงานและดูแลคนไข้โควิดไว้ด้วยอีกประการหนึ่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่าปทุมจับมือนายกแจ๊ส เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ปทุมธานี
ศาลไต้หวัน สั่งจำคุก 31 ปี "สาวสิงคโปร์" รับจ้างตระเวนกดเงินให้แก๊งสแกมเมอร์ มีความผิดฉ้อโกง 25 กระทง โดนค่าปรับอ่วม
ทต.ลาดยาว​ เร่งบล็อกท่อน้ำรอบเทศบาล​ พร้อมตั้งเครื่องสูบเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมเพื่อที่เศรษฐกิจ​
จังหวัดน่าน เตรียมจัดกิจกรรมยกระดับองค์ความรู้ “สล่าเรือ”
"โฆษกทร.กร้าว" ลั่นทัพเรือลุยรื้อแน่ บ้าน 3 หลังเล็ก หลงเหลือรุกล้ำแผ่นดินตราด เผยชาวบ้านสุดทนเขมรกร่าง ร่วมใจสร้างถนนถึงด้านหน้าแล้ว
"กรมอุตุฯ" เตือน 33 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก กทม.ร้อยละ 60 ของพื้นที่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​