แม้ตัวเลขสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดในประเทศไทย ณ วันที่ 20 ส.ค.2564 จะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 19,851คน เสียชีวิต 240 คน ส่งผลให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564จนถึงปัจจุบัน สูงถึง 980,847 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสม 8,826 คน อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังสูงอยู่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเฉียดล้าน ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมเกือบหมื่น
แต่ในข่าวร้ายก็มีข่าวดีที่พอจะทำให้คนไทยชื่นใจได้บ้าง ในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญหน้ากับสงครามโควิด-19 รุนแรงสุดนับตั้งแต่เริ่มระบาดในไทยตั้งแต่ปี 2563 ล่าสุดแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมชูปถัมภ์ ได้เผยแพร่แบบจำลองการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2564 ถึง 25 ต.ค.2564 เพื่อคาดการณ์จำนวนคนติดเชื้อใหม่ในประเทศไทย โดยจากการติดตามข้อมูล พบว่าสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียของไทยไม่ต่างจากสถานการณ์ที่เคยเกิดในประเทศอินเดีย และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงจากเนินสูงสุด หากการบริหารจัดการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขยังมีประสิทธิภาพเหมือนปัจจุบัน คาดว่าต้นเดือนก.ย.จะได้เห็นตัวเลขคนติดเชื้อต่ำกว่าหมื่นคน จากนั้นหากเราควบคุมสถานการณ์ได้ดีตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงจากหมื่นคนเหลือแค่ห้าพันคนในอีก 2 สัปดาห์ แต่ต้องไม่มีกรณีการระบาดของโควิดสายพันธุ์แลมบ์ด้า (Lambda) กับ สายพันธุ์เอปซีลอน (Epsilon) เข้ามาระบาดในประเทศไทย
ทั้งนี้แบบจำลองของแพทยสมาคม สอดคล้องกับการออกมาส่งสัญญาณของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่าน FB ก่อนหน้านี้ว่า หากเราสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการล็อกดาวน์ได้มากกว่านี้ ก็จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้มากขึ้น ที่ประชุม ศบค. จึงมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการออกไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม หากเราสามารถควบคุมการล็อกดาวน์ได้ดีขึ้นกว่านี้ อาจจะสามารถผ่านจุดสูงสุดของยอดการติดเชื้อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องได้ในต้นเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้เราสามารถปรับมาตรการการควบคุมและผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมบางอย่างได้
ทั้งนี้มีสัญญาณบวกจากตัวเลขสถานการณ์โควิด-19 หลายเรื่องปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบด้วย
ประเด็นแรก – จำนวนคนติดเชื้อโควิด-19 ที่หายป่วยกลับบ้านมีสัญญาณดีขึ้น ล่าสุดวันนี้ 20 ส.ค. 2564 อยู่ที่ 20,478 คน มากกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นการมากกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่าแพทย์ไทย พยาบาล เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ทุกองคาพยพของกระทรวงสาธารณสุขไทย มีความรู้มีความสามารถมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม สถิติผู้ป่วยรักษาหาย 10 วันย้อนหลังของไทย ตั้งแต่ 11 – 20 ส.ค.2564 มีตัวเลขเกิน 20,000 คน ทุกวัน ตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่าฝีมือแพทย์และสาธารณสุขของไทยก็ยังเทียบเท่านานาอารยะประเทศ ไม่ได้ด้อยไม่ได้ล่มเหมือนที่คนชังชาติเอาไปบิดเอาไปพูดไม่เข้าท่า 11 ส.ค. 64 หายป่วย 22,012 คน ,12 ส.ค. 64 หายป่วย 23,649 คน ,13 ส.ค. 64 หายป่วย 20,083 คน ,14 ส.ค. 64 หายป่วย 23,672 คน ,15 ส.ค. 64 หายป่วย 21,106 คน ,16 ส.ค. 64 หายป่วย 20,984 คน ,17 ส.ค. 64 หายป่วย 20,791 คน ,18 ส.ค. 64 หายป่วย 22,682 คน ,19 ส.ค. 64 หายป่วย 22,208 คน , 20 ส.ค. 64 หายป่วย 20,478 คน ขณะที่ตัวเลขหายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 อยู่ที่ 768,379 คน เพราะฉะนั้นที่ไปโกหกไปมุสาว่าแพทย์เราห่วยแตกวงการสาธารณสุขเราไม่มีราคา อย่าไปพูดหมาๆหาทำแบบนี้
ประเด็นที่สอง – ตัวเลขผู้ป่วยกำลังรักษาปัจจุบันแม้จะมีสูงถึง 205,079 คน แต่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยหนักหรืออาการโคม่าทั้งหมด และรัฐบาลก็ไม่ได้ทอดทิ้งคนเหล่านี้ แม้จะมีคนติดจำนวนมากเกินกำลังปกติที่แพทย์และระบบสาธารณสุขจะรองรับไว้ แต่ก็มีการจัดระบบ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จัดHome Isolation จัด Community Isolation รองรับคนป่วยตามอาการหนักเบาต่างกัน โดยไม่ได้มีการทอดทิ้ง อาจมีช้ามีอาจนานไปบ้างในหลายราย แต่ทุกฝ่ายก็ได้พยายามนำคนป่วยทุกคนเข้าสู่ระบบการรักษาต่างๆ ที่รัฐมีอย่างเต็มที่ ดังจะเห็นได้จากตัวเลขที่ศบค.นำมาแจกแจงทุกวัน ล่าสุดตัวเลขคนป่วยกำลังรักษา 205,079 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 46,023 คน รักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม 78,445 คน รักษาตัวใน Home Isolation / Community Isolation 74,854 คน รักษาตัวที่อื่นๆ 5,757 คน ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 5,388 ล้านบาท ใช้ท่อช่วยหายใจ 1,161 คน
ประเด็นที่สามจำนวนคนฉีดวัคซีน ล่าสุด 25,818,666 โดส แบ่งเป็นเข็มที่หนึ่ง 19,586,009 คน เข็มที่สอง 5,705,200 คน เข็มที่ 3 ขึ้นไป 527,457 คน ในกรุงเทพและปริมณฑลฉีดไปแล้ว 8,575,657 คน จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 14,852,392 คิดเป็น 57.74 % เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ฉีดไปแล้ว 6,079,066 คน จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 7,699,174 คน คิดเป็น 78.96 % ภาคกลางฉีดไปแล้ว 15.76 % ภาคเหนือฉีดไปแล้ว 15.36 % ภาคตะวันออกเฉียงเหนือฉีดไปแล้ว 14.27% ภาคตะวันออกฉีดไปแล้ว 26.36 % ภาคตะวันตกฉีดไปแล้ว 16.56 % ภาคใต้ฉีดไปแล้ว 25.05 % นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการฉีดวัคซีน เมื่อวานนี้ของทั้งประเทศทำได้สูงสุดถึง 860,777 โดส สูงสุดของการฉีดวัคซีนในประเทศไทย เพราะฉะนั้นหากไทยมีวัคซีนเพียงพอโอกาสที่จะฉีดวัคซีนให้คนไทยได้ถึงวันละล้านโดสเพื่อเร่งการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ก็ไม่น่าเกินขีดความสามารถที่จะทำได้
ประเด็นที่สี่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัดเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกินพันคนเหลือแค่ 4 จังหวัดคือ กรุงเทพ 4,181 คน สมุทรสาคร 1,556 คน ชลบุรี 1,348 คน สมุทรปราการ 1,055 คน นอกจากนี้มีจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 100 คน มากถึง 32 จังหวัด โดยจ.แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีผู้ติดเชื้อหลักหน่วย คือ 1 คนเท่านั้น
////////////////////
