“มัลลิกา” เตือน “ก้าวไกล” ถึงทางตัน ไม่มีทางทำสำเร็จ ชี้เจตนาชัดต้องการมากกว่าแก้ 112

"มัลลิกา" เตือน "ก้าวไกล" ถึงทางตัน ไม่มีทางทำสำเร็จ ชี้เจตนาชัดต้องการมากกว่าแก้ 112

วันที่  30 พ.ค.66 ดร.มัลลิกา บุญมีตระะกูล มหาสุข อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ออกมาประกาศจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไขและยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นกฎหมายที่ใช้ในการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเป็นบทบัญญัติ หมวดที่ว่าด้วย การคุ้มครององค์พระประมุขของประเทศ

โดย ดร.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า ในฐานะเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทราบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และคณะจะไปผลักดันการแก้ไขมาตรา 112 ในสภาฯ หลังจากที่ได้เสนอค้างไว้ในสมัยที่แล้ว ซึ่งไม่สามารถบรรจุเป็นวาระได้ เพราะประธานสภา นายชวน หลีกภัย เห็นว่ายังมีข้อโต้แย้งว่าขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจทานเอกสารร่างกฎหมายโดยละเอียดจะเห็นชัดว่า การแก้ไขของพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างฯไว้นั้นเป็นการยกเลิกการคุ้มครองสถาบันหลักของชาติโดยสิ้นเชิง

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยเฉพาะมาตราที่เคยคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า ด้วยมาตรา 112 ที่ระบุว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการ มีโทษจำคุก 3-15 ปี ไม่มีปรับ ตรงนี้จะไม่มีอีกต่อไป แต่เขาจะเปลี่ยนเป็นมาตรา 135/5 หมิ่นในหลวงมีโทษเพียงจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และมาตรา135/6 หมิ่นพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 2 แสน

ซึ่งนัยยะสำคัญของกฎหมาย หากโทษน้อย ก็จะเหมือนกับบุคคลทั่วไป คือในกฎหมายอาญานั้น ที่สุดของคดีสามารถเป็นเพียงการรอลงอาญา

ซึ่งก็ไม่ต้องติดคุกจริง หรือเป็นเพียงการปรับเท่านั้น แปลตรงๆ คือกฎหมายของคณะเขาเปิดกว้างให้หมิ่นในหลวง พระราชินี องค์รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการได้โดยอาจไม่มีโทษ


ทั้งนี้ ดร.มัลลิกา ยังได้ถามกลับไปทางพรรคก้าวไกลว่า พวกคุณมีจุดประสงค์อะไร ถึงมีความพยายามที่จะแก้ไขมาตรานี้ ซึ่งถือว่าเป็นหมวดความมั่นคงของชาติ ณ วันนี้คงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า มีคนส่วนใหญ่ที่พร้อมจะออกมาปกป้อง และต่อต้านไม่ให้มีการแก้ไข ม.112 และส่วนตัวไม่เชื่อว่าพรรคที่บูลลี่สถาบัน จะออกมาแก้ไขกฎหมายเพื่อปกป้องสถาบัน

ไม่เพียงเท่านั้น ดร.มัลลิกา ยังได้กล่าวถึงหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทย มีหน้าที่ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ คือองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะ อันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้อง พระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ เช่นเดียวกับ มาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญดัง เช่นต้อง “พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดังนั้น จึงขอให้คนไทยทุกคนตระหนักในหน้าที่ของความเป็นพลเมืองไทย บูรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงต่อสู้กอบกู้เอกราชมาให้เรา ได้มีแผ่นดินเกิด ลงหลักปักฐาน มีชีวิตที่ไม่ได้ไปกว่านานาอารยประเทศ ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงควรสำนึก และจงหวงแหนสถาบันหลักของชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สระแก้ว ฉก.กองกำลังบูรพา ตรวจเข้มแนวชายแดน
สระแก้ว กัมพูชาสั่งการให้ตัดไฟฟ้าจากฝั่งไทย
“สรวงศ์” เผยครม. ไฟเขียวไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง F1 วงเงิน 4 หมื่นล้าน ยาว 5 ปี ปักหมุดพื้นที่จตุจักร
"ชวน" ยัน MOU43 ปักปันเขตแดน ยึดข้อตกลงร่วม 2 ปท. ชี้ปัญหาขัดแย้งปชช.ไม่เกี่ยว แต่เกิดจากนักการเมือง
รมว.ต่างประเทศกัมพูชาเรียกพบทูตแจงสถานการณ์ชายแดน
กัมพูชาปิดด่านพรมแดนไทยทั้งหมดหลังเลยเส้นตาย
“ฮุนเซน” สั่ง Khmer Times แก้ข่าว ชี้เสนอคลาดเคลื่อน ยันไม่ได้สั่งปิดด่านทั้งหมดและห้ามนำเข้าสินค้าไทยทุกชนิด แค่ห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้หากไทยไม่เปิดด่านปกติภายใน 24 ชั่วโมง
“อนุทิน-เนวิน-สันติ” โชว์ปึ้ก ร่วมวงกินข้าวกลางวัน ตอกย้ำร่วมงานภท.
"ตร.ไซเบอร์" รวบ 10 บัญชีม้าคอลเซนเตอร์ข้ามชาติ จาก 35 หมายลอบกลับไทย  ลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 36 ล้านบาท เร่งขยายผลตามจับกุมที่เหลือ
"สันติสุข" สวนหงาย "ฮุนเซน" รักชาวเขมรไม่จริง ขู่ปิดด่าน ปั่นหัวแรงงานกลับปท. เห็นชัด ๆ ใครเดือดร้อนแน่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น