“สนธิญา” ร้องกกต.ยุบก้าวไกล ฟันโทษ “อุ๊งอิ๊ง” ครอบงำพรรค บินเยี่ยมทักษิณ-ยิ่งลักษณ์

“สนธิญา” ร้องกกต.ยุบก้าวไกล ฟันโทษ “อุ๊งอิ๊ง” ครอบงำพรรค บินเยี่ยมทักษิณ-ยิ่งลักษณ์

วันนี้ (26 พฤษภาคม) ที่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เวลา 10.30 น. นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่งสัญญาณว่าตำแหน่งประธานสภาควรเป็นของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายการครอบงำ หรือชี้นำพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้เป็นพรรคอันดับ 1 อยู่หรือไม่

นายสนธิญา กล่าวว่าที่มาร้องในวันนี้ตัวเองมี 2 ประเด็นหลักๆ เรื่องแรกคือกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เรื่องการแสดงความคิดเห็นว่าพรรคก้าวไกลจะต้องยึดมั่นในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้อยู่กับพรรคก้าวไกล ซึ่งการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะอยู่กับพรรคใดพรรคหนึ่งต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตัวเองตั้งข้อสังเกตว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญปี 2560 หมายถึงประธานรัฐสภาด้วย นั่นหมายความว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรก็จะเป็นประธานรัฐสภา ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมวุฒิสภาด้วย

และตอนนี้นายปิยบุตรก็เป็นผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง พร้อมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่ช่วงที่ผ่านมานายปิยะบุตร ทำหน้าที่ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมถือว่าผ่านไปแล้ว แต่นายปิยบุตรกลับมาโพสต์แบบนี้ จึงเหมือนเป็นการชี้นำ ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธ แต่กลับมาแสดงออกเหมือนเห็นด้วยว่าพรรคก้าวไกลจะยึดมั่นในตำแหน่งประธานสภาให้อยู่ในฝั่งของพรรคก้าวไกล และการที่ทางพรรคก้าวไกล ไม่ได้ออกมาปฏิเสธในเรื่องที่นายปิยะบุตรชี้นำ

ข่าวที่น่าสนใจ

จึงอนุมานได้ว่า เข้าสู่ความผิด พ.ร.บ. พรรคการเมือง ม.28 และม.29 รวมทั้งขัดรัฐธรรมนูญ ม. 92(3)ที่หมายถึงเรื่องการชี้นำ ตนจึงอยากให้กกต. ตีความว่าการกระทำของ นายปิยบุตร เข้าข่ายชี้นำพรรคก้าวไกลหรือไม่

ส่วนประเด็นต่อมาคือกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองเคยยื่นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 ซึ่งตอนนั้นนางสาวแพรทองธาร ถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่เดินทางไปเยี่ยมนายทักษิณ และครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งการที่ลูกสาวจะไปเยี่ยมพ่อแม่ก็สามารถทำได้ 10 ปีที่ผ่านมาที่นางสาวแพทองธารไม่ได้ตำแหน่งใดๆในพรรค ตัวเองก็ไม่ได้ออกมาร้อง แต่ช่วงหลังการเลือกตั้งนางสาวแพทองธาร มีตำแหน่งทางการเมืองถึง 3 ตำแหน่ง ตัวเองจึงมองว่าจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ม.45 และ ม. 92 (3) ตัวเองจึงมาร้องต่อ กกต. ว่าการกระทำของ นางสาวแพทองธาร ขัดกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวหรือไม่อย่างไร

นายสนธิญา ยังบอกด้วยว่า ตัวเองมั่นใจว่าพรรคก้าวไกล ที่นำโดยคุณพิธา จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการโหวตให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะตกไปที่นางสาวแพทองธาร และการไปเยี่ยมพ่อด้วยสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ควรดำเนินการโดยเปิดเผยให้สาธารณะชนได้รับทราบ เพราะนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกศาลพิจารณาให้จำคุกไปแล้ว ตัวเองจึงอยากให้ กกต. พิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซันโวเพื่อนบ้านดับคาบ้าน ปมจับแก้มลูกสาว ตร.แจ้งข้อหาหนัก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนปล่อยจรวดกลางทะเล ส่งดาวเทียมดวงใหม่สู่วงโคจร
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) COMAC ส่งมอบ 'เครื่องบินกู้ภัยทางการแพทย์' ลำแรกของจีน
รวบ 2 หนุ่มเมียนมาเสพยา วิ่งหนีตำรวจเข้าป่าแต่ไม่รอด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หุ่นยนต์นักกีฬาทีมจีน-ไทย ปะทะฝีแข้งงาน RoboCup ในฉงชิ่ง
ซ้อมแผนอพยพหนีไฟ เสริมความปลอดภัยด้านอัคคีภัยระดับจังหวัด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​