สัจจะลูกผู้ชาย “เฉลิมชัย” หลังปชป.พ่ายแพ้หมดรูป

สัจจะลูกผู้ชาย "เฉลิมชัย" หลังปชป.พ่ายแพ้หมดรูป

หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ คาดได้เก้าอี้ส.ส.จำนวน 24 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 22 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2 คน ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่แบบหมดรูป คะแนนไม่เพียงพอสำหรับการเสนอชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส.ส.จำนวน 53 คน ในครั้งนั้น ถือเป็นครั้งแรกที่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส.ส.ในกรุงเทพมหานครเลย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคและส.ส.ของพรรค ยุติบทบาทตัวเอง

พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองหนึ่งเดียวของประเทศไทย มีอายุยาวนานมากกว่า 76 ปี และด้วยอุดมการณ์การเมือง 10 ข้อของพรรคที่ชัดเจน หล่อหลอมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น สะท้อนออกมาผ่านบุคลิกเฉพาะตัวของคนในพรรคนี้ เรียกได้ว่าทุกคนมี DNA เดียวกัน

ทุกยุคทุกสมัยที่ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่เป็นเสาหลักของการเมืองไทย เคยผ่านยุครุ่งเรืองจนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีบุคลากรคุณภาพขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายคน แต่ในบางยุคพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ก็เป็นพรรคที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่เต็มกำลัง และได้ชื่อว่าเป็นฝ่ายค้านที่ดีที่สุดพรรคหนึ่ง

ด้วยเพราะการที่พรรคขับเคลื่อนได้ด้วยคนที่มีอุดมกาณ์เดียวกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายทุนคนใดคนหนึ่งเหมือนกับบางพรรค ทำให้ไม่ว่าใครที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่มีใครที่ยืดติดอยู่กับตำแหน่ง เมื่อได้รับโอกาสก็จะทำงานกันสุดอย่างความสามารถเต็มกำลัง เพราะรู้ดีว่าการเมืองคือการแข่งขัน มีแพ้มีชนะ เมื่อพ่ายแพ้ก็ยอมรับแมน ๆ อย่างลูกผู้ชายตัวจริง ซึ่งทำให้เห็นมาแล้วหลายยุคหลายสมัย

เช่น หลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ได้ประกาศลาออกจากนายกรัฐมนตรีทันที แม้ว่าคณะปฏิรูปการปกครองที่ยึดการปกครองจะขอให้ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป พร้อมกับวางมือทางการเมืองแต่ยังรักษาการต่อไปจนกระทั่งพรรคได้หัวหน้าคนใหม่ ในอีก 2 ปีต่อมา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

มาในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แสดงจุดยืนทางการเมืองไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าสอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา กลับไม่ประสบความสำเร็จ นายนายอภิสิทธิ์ ก็แสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าพรรคด้วยการลาออกทันทีโดยไม่ยึดติดกับตำแหน่ง

ล่าสุดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ประกาศลาออกทันทีหนึ่งวันหลังทราบผลเลือกตั้ง ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนในฐานะหัวหน้าพรรคที่นำทัพแพ้ศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ หลังประกาศได้ไว้ก่อนหน้าไว้ว่าจะรับผิดชอบ หากพรรคได้จำนวน ส.ส.น้อยกว่าครั้งก่อนหน้า นั่นก็คือต่อจากยุคของนายอภิสิทธิ์

และอีกหนึ่งคนที่ต้องถูกพูดถึงคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เคยประกาศกับบรรดาผู้สมัครส.ส. เมื่อ 14 เม.ย.65 ไว้ชัดเจนว่า “ถ้ารอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ จะยอมเลิกเล่นการเมือง หันหลังให้กับงานการเมืองไปทั้งชีวิต” นั่นก็คือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะแม่บ้านของพรรค แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการลาออกแต่อย่างใด

 

 

วันนี้จึงเกิดคำถามขึ้นตัวโต ๆ จากคอการเมืองของไทย และแฟนประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งล้มเหลวไม่เป็นท่า ได้ 24 ที่นั่ง แล้วแม่บ้านใหญ่ของพรรค อย่างนายเฉลิมชัย จะมีท่าที แสดงความรับผิดชอบอย่างไร จะหนักแน่นมั่นคงดัง คำขวัญของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่า “สัจจังเว อมตวาจา” ที่แปลว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” พูดอะไรไว้ก็ต้องไม่คืนคำ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น