เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายแอนดรูย์ บาร์ มุขมนตรีกรุงแคนเบอร์ร่า ประกาศล็อคดาวน์เมืองหลวงออสเตรเลียแบบฉับพลันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยมีผลบังคับใช้ทันที 17 นาฬิกาเย็นนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดภายในชุมชน 1 ราย ซึ่งถือเป็นการพบในชุมชนครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีของนครหลวงออสเตรเลีย
บาร์กล่าวว่าการพบผู้ติดเชื้อโควิดครั้งนี้เป็นความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่รุนแรงที่สุดสำหรับแคนเบอร์ร่า เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบหาแหล่งที่มาได้ว่าติดมาจากไหน ทำให้ต้องสั่งล็อคดาวน์ทั้งเมืองเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด โดยประชาชนทั้งหมดราว 4 แสนคนจะไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากบ้านยกเว้นมีธุระจำเป็น ส่งผลให้ชาวกรุงแคนเบอร์น่าจำนวนมากแห่ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตจนคิวยาวเหยียด การสั่งล็อคดาวน์กรุงแคนเบอร์ร่านับเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้
ขณะที่นครเมลเบิร์น ก็เพิ่งถูกสั่งขยายล็อคดาวน์ออกไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และที่นครซิดนี่ย์ ซึ่งแม้จะอยู่ภายใต้ล็อคดาวน์แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์วันนี้ก็ยังสูงถึง 345 คน ทำให้วันนี้นางแกลดิส เบเรจิ๊กเลี่ยน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์บอกว่าอาจจะต้องขอกำลังทหารเข้ามาเพิ่มในการช่วยควบคุมมาตรการล็อคดาวน์ที่นครซิดนี่ย์ โดยขณะนี้มีทหารเข้ามาช่วยอยู่แล้ว 580 นาย แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่พอ
ส่วนรัฐเซาธ์ ออสเตรเลียยืนยันว่า นักกีฬาออสเตรเลียที่เดินทางกลับจากการแข่งขันโอลิมปิคที่โตเกียวและแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินซิดนี่ย์นั้น จะต้องถูกกักตัวนานถึง 28 วัน โดยไม่ได้รับการยกเว้น