วันที่ 11 ส.ค. 2564 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนัก บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบาย/ข้อสั่งการของดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดี.อส.ให้ดำเนินการป้องกัน ปราบปรามขบวนการ บุกรุกพื้นที่ป่า ตัดไม้ทำลายป่า และล่าสัตว์ป่าอย่างเฉียบขาด
ทั้งนี้ได้รับรายงานจาก นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ฯ และชุดเฉพาะกิจ อช.แก่งกระจาน ร่วมกับ กจ.6 เขามะเร็ว ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่หมู่บ้านห้วยครก ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบพื้นที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง เปิดป่าใหม่ เป็นวงกว้าง นับ10ไร่ ต้นไม้ใหญ่มีค่า ถูกโค่นล้มกระจัดกระจาย อยู่ทั่วพื้นที่บุกรุกกว่า30 ท่อน คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกัน ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก และไม้ท่อนของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เพื่อตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยชาวบ้านเข้าใจว่า แปลงบุกรุกดังกล่าวนี้ ได้รับการสำรวจ/รังวัด ตามมาตรา 64 พรบ.อุทยาน 62 ตามแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตาม มติ ครม. 26 พ.ย. 61 แต่พื้นที่แปลงบุกรุกดังกล่าวนี้ เป็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ อีกทั้ง การสำรวจพื้นที่ถือครองของราษฎรนั้น เป็นการเตรียมความพร้อม ในการเตรียมข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การอนุญาติ ในการใช้ประโยขน์ในพื้นที่ ซึ่งราษฎรที่ได้ร่วมสำรวจพื้นที่ถือครองนั้น ยังไม่ได้รับการพิจารณา ให้อยู่อาศัยหรือทำกินในป่าอนุรักษ์ จนกว่าจะได้รับการพิจารณา กำหนดเป็นพระราชกฤษฎีกา ตามกฏหมายกำหนด ฉะนั้นการดำเนินการ เปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ บุกรุกแผ้วถางป่า ถือว่าเป็นความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะเร่งจัดทำประกาศ ประชาสัมพันธ์ ชี้แจ้งให้ราษฎรทุกชุมชน ทราบโดยเร่งด่วนต่อไป
ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ กำลังลำเลียงไม้ของกลางจากพื้นที่บุกรุก นำกลับไปเก็บรักษาไว้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้พบชายต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับสวนมุ่งหน้าเข้าบ้านโป่งลึก-บางกลอย จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ พบกระสุนปืนลูกกรดขนาด .22 จำนวน 2 กล่อง และ กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 กล่อง โดยอ้างว่าอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านโป่งลึก จะนำลูกปืนที่นำมาทั้งหมด ไปเพื่อล่าสัตว์ป่า จึงได้จับกุมตัวผู้กระทำผิด พร้อมของกลาง ส่งดำเนินคดีสภ.แก่งกระจาน ตามกฎหมายต่อไป
วุฒิเดช ก้อนทองคำ