เอกอัครราชทูตไทย สำรวจเส้นทางการค้าการข้ามแดนและการท่องเที่ยว ระหว่างไทยกับกัมพูชา

ศรีสะเกษ เอกอัครราชทูตไทยสำรวจเส้นทางการค้าการข้ามแดนและการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานด่านศุลกากรช่องสะงำ ชั้น 2 อาคารสำนักงานด่านศุลกากรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ พร้อมด้วย พันเอก กรวรานนท์ กลั่นพรมสุวรรณ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก รักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและคณะ ได้เดินทางมาสำรวจและศึกษาเส้นทางพร้อมกับสร้างเครือข่ายกับจังหวัดชายแดนกัมพูชา-ไทย ทางภาคเหนือของกัมพูชา(จ. พระวิหาร และ จ. อุดรเมียนเรย) โดยได้ร่วมประชุมหารือกับ นายสำรวจ เกษกุล ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาความเชื่อมโยงในด้านต่างๆ ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอสภาพปัจจุบันการดำเนินงานและปัญหาต่างๆ ในเรื่องการข้ามแดน การค้า และการท่องเที่ยว บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ สถานการณ์แรงงานของจังหวัดศรีสะเกษ การจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีระหว่างไทย – กัมพูชา สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ และการท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้เอกอัครทูตและคณะได้รับทราบโดยมี นายพิชยา เจริญสันต์ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พ.ต.ท.นที ทองสุกแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.ศรีสะเกษ น.ส.ธัญสุตา นิยมชาติ หน.สำนักงาน จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมในครั้งนี้

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กล่าวว่า วันนี้ได้มาสำรวจดูพื้นที่บริเวณช่องสะงำเป็นส่วนหนึ่งของการมาดูพื้นที่บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาด้านที่ติดกันระหว่าง จ.อุดรมีชัยของกัมพูชากับด้าน จ.ศรีสะเกษและได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่องกับทาง ผวจ.ศรีสะเกษซึ่งประเด็นหลักที่ได้พูดคุยกันมีอยู่ 3 เรื่องคือ เรื่องแรกในเรื่องของการบริหารจัดการบริเวณช่องสะงำ คือจุดผ่านแดนซึ่งเราเห็นว่าเอกสารในการเดินทางปัจจุบันนี้มีหนังสือเดินทางและมีบอร์เดอร์พาส ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้ง 2 ประเทศเราจึงได้พิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถขยายให้มีเอกสารอีกหนึ่งอย่างก็คือบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้หรือไม่ ซึ่งก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เราจะได้พูดคุยกันเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ ประเด็นที่ 2 ที่ได้มีการพูดคุยกันก็คือเรื่องเกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างประเทศซึ่งประเด็นนี้ได้มีการปรึกษาหารือกันระหว่างโรงพยาบาลคู่มิตรคือระหว่างโรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษกับโรงพยาบาลอันลองเวง จ.อุดรมีชัย เราจะทำอย่างไรจึงจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยจากกัมพูชาสามารถเข้ามารักษาตัวในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ในเขตประเทศไทย ทำอย่างไรจึงจะทำให้เป็นระบบที่ชัดเจนได้

 

 

 

 

นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่ 3 ก็คือในเรื่องของการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายไปแล้ว เราก็จะส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายกัมพูชาเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและฝ่ายไทยเข้าไปเที่ยวที่กัมพูชา ในส่วนที่จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยก็จะมีแรงจูงใจหลายอย่างเช่น การเดินทางมาวันศุกร์มากขึ้น มีกิจกรรมประเพณีร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายที่จัดขึ้น การที่สถานการณ์โควิดดีขึ้นน่าจะมีกิจกรรมระหว่างประชาชนกับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศได้มากขึ้น เพราะว่าการติดต่อระหว่างประชาชนกับประชาชนจะเป็นพื้นฐานสำคัญระหว่างทั้ง 2 ประเทศนี้ ซึ่งทุกเรื่องจะมีการนำไปปรึกษาหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศต่อไป.

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สถาบันการสร้างชาติ โดยนสช.19 จัดฝึก “เยาวชนอาสาร่วมใจกู้ภัยทางน้ำสร้างชาติ” ครั้งแรกในไทย
รวบรถทัวร์ปรับอากาศจากภาคเหนือล่องลงภาคใต้ ค้นพบยา 3 แสนเม็ด ผู้ต้องหา 3 ราย
น้ำตาลครบุรีผสานใจ ส่งเสบียงสู่ชายแดน หนุนทหาร-ชาวบ้านฝ่าวิกฤติ
"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย พร้อมบก.ปทส. นำหมายค้นบ่อฝังกลบ "บ.เวสต์ 2" ปราจีนบุรี พบทำผิดเงื่อนไขหลายจุด สั่งหยุดทันที
โฆษกทบ. สวนกลับ "มาลี" ยัน "แม่ทัพภาคที่ 2" ไม่ได้พูดข่มขู่ ใช้กำลังยึดปราสาทตาควาย ไทยยึดมั่นแนวทางเจรจา ไม่รุกรานอธิปไตยชาติอื่น
“มหาหมี” ชี้วัดพระบาทน้ำพุ ต้องเอาผิด “หมอบี” หากนิ่งเฉย อาจผิดเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ขอ "หลวงพ่ออลงกต" รีบแจงข้อเท็จจริง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​