มีผลบังคับใช้แล้ว “พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์” แบงก์เชื่อมต่อข้อมูล ระงับธุรกรรมได้ทันที

มีผลบังคับใช้แล้ว "พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์" แบงก์เชื่อมต่อข้อมูล ระงับธุรกรรมได้ทันที

มีรายงานข่าวระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่การประกาศใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

 

 

พระราชกำหนดนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพบุคคลตามพระราชกำหนดนี้ เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตซึ่งถูกหลอกลวงจนสูญเสียไปซึ่งทรัพย์สิน โดยผ่านโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแต่ละวันมีผู้ถูกหลอกลวงจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก สมควรมีมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมประเภทนี้ให้หมดไปโดยเร็ว อันเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ และความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการตราพระราชกำหนดนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดขึ้นไว้

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการระบุเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันมีการใช้วิธีการทางเทคโนโลยีหลอกลวงประชาชนทั่วไปผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ จนทำให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมากและผู้หลอกลวงได้โอนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดดังกล่าวนั้นผ่านบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบุคคลอื่นต่อไปเป็นทอด ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อปกปิดหรืออำพรางการกระทำความผิดซึ่งแต่ละวันประชาชนผู้สุจริตถูกหลอกลวงจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก และการหลอกลวงดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำความผิดได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างและเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจ าเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ และความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้

สำหรับพระราชกำหนดฉบับนี้ มีทั้งหมด 14 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ เช่น พระราชกำหนดฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปมาตรา 10 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับหรือที่เรียกกันว่า “บัญชีม้า” ที่เป็นการรับจ้างเปิดบัญชีเพื่อให้มีการหลอกลวงให้โอนเงินจากผู้เสียหายหรือเหยื่อ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ พระราชกำหนดฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งคือวันที่ 17 มีนาคม 2566

 

 

 

โดยมีรายละเอียดฉบับเต็ม ดังนี้

https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140A018N0000000000100.pdf

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” ย้ำจุดยืน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ” พรรคร่วมต้องเป็นหนึ่ง หนุนทำประชามติ ฟังเสียงประชาชน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ฮ่องกงแข่งปีน 'ภูเขาซาลาเปา'
"พรรคส้ม" ออกแถลงการณ์ด่วน ผู้สมัคร สท.สมุทรปราการ โดนจับตั้งแก๊ง "บุญรักษา" ค้ายาเสพติดรายใหญ่
"ผบ.ทบ." ลงพื้นที่ "นราธิวาส" สั่งเพิ่มมาตรการยกระดับควบคุมพื้นที่ ย้ำงานด้านการข่าว เข้มดูแลประชาชน พร้อมเร่งติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดี
ย้อนรอย 21 ปี ไฟใต้ กับ “9 นายกฯ” อะไรคือจุดเริ่มต้นและจุดจบของปัญหา
"ภูมิธรรม" ย้ำพบ "จุฬาราชมนตรี" พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมอง ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ พร้อมเดินหน้าเจรจาอีกหลายส่วน
"กกต."เบรกข่าวลือจ่อฟัน 60 สว. แจงขั้นตอนสอบล่าสุด คกก.เพิ่งเริ่มไต่สวน ปมฮั้วลงคะแนน
อำเภอบางละมุง แจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจข้อมูลเด็กยากจน พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อเข้ารับทุนพัฒนาเด็กชนบท
ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กกล.KNLA ร่วม กกล.KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งไทยกว่า 100 คน
"ปลอดประสพ" สวมบทกมธ.สอบตึก 2 พันล้านถล่ม ซัดผู้ว่าสตง.เป็นลูกผู้ชายไม่พอ ไม่มาแจง ร่วมแก้ปัญหา ข้อผิดพลาดเกิดขึ้น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น