“รมว.คลัง” ห่วงปชช.ถูกดูดเงินในบัญชี เร่งฝ่ายเกี่ยวข้องป้องกันแก้ไข

"รมว.คลัง" ห่วงปชช.ถูกดูดเงินในบัญชี เร่งฝ่ายเกี่ยวข้องป้องกันแก้ไข

กระทรวงการคลัง-สมาคมธนาคารไทย ลุ้น ครม.เคาะ พ.ร.ก. คุมเข้มหลอกลวง ดูดเงินบัญชีลูกค้า หลังปัจจุบันพบปัญหาต่อเนื่อง

 

วันที่ 13 ก.พ.66 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง ปัญหาภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะแก๊งค์หลอกหลวงประชาชน ว่า ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก จากปัญหา Call Center แอปหลอกลวง แชร์ลูกโซ่ ขายตรง บัญชีม้า นายหน้าเถื่อน ทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ และมีการร้องเรียนคดีออนไลน์ถึง 800 คดีต่อวัน มีมูลค่าการแจ้งความ 22,000 ล้านบาท เกิดความเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก กระทรวงการคลังขอย้ำเตือนไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อกดรับยืนยันลิงค์ต่างๆ เพราะธนาคารจะรับผิดชอบไม่ได้ เว้นแต่ปัญหาการแฮกเกอร์ ถูกดึงเงินออกจากบัญชี

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกรมจัดเก็บภาษี ได้มีการถูกแอบอ้างอย่างต่อเนื่อง เช่น กรมสรรพากร ที่มีการโทรไปหลอกลวงว่า ถูกจัดเก็บภาษีเพิ่ม หรือให้เจรจาจะทำให้จ่ายภาษีน้อยลง /กรมศุลกากร ถูกแอบอ้างว่า ได้มีผู้ส่งพัสดุจากต่างประเทศมาให้ ต้องโดนค่าปรับ ซึ่งกระทรวงการคลัง ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรหาประชาชน จึงอยากให้ระมัดระวังอย่างมาก

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้หารือร่วมกันตลอดเวลา ถึงแนวทางป้องกันมิจฉาชีพดูดเงินในบัญชีธนาคาร โดยธปท.จะมีความเข้มงวดมากขึ้นในระบบสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การเปิดบัญชี การยืนยันตัวบุคคล และการตรวจสอบข้อมูลระหว่างการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชีหนึ่ง ส่วนสถาบันการเงินของรัฐ ได้สั่งการให้เข้มงวด และมีการประชาสัมพันธ์ให้มาก

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า

 

ขอเพิ่มความรู้ความเข้าใจว่า ธนาคารมีการกดยินยอม ส่งชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ของลูกค้าและประชาชน ดังนั้น ขอให้ระมัดระวังอย่างมาก ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวต้องรอให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส นำเสนอร่างพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอในเร็วๆนี้ หลังจากที่มีการส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้หลายหน่วยงาน มีเครื่องมือแก้ปัญหาการหลอกลวงทางไซเบอร์ ทั้งปัญหา Call Center แชร์ลูกโซ่ ขายตรง บัญชีม้า เป็นต้น

 

โดยร่าง พ.ร.ก. ป้องกันอาชญากรรมทางทางไซเบอร์ ดังกล่าวจะดึง 6 หน่วยงานหลักมาร่วมกันทำงาน ประกอบด้วย กระทรวง DES , กระทรวงการคลัง , กระทรวงมหาดไทย , สำนักงาน กสทช. , ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) คาดว่าจะสามารถนำมาบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้

 

ซึ่งในส่วนของสมาคมธนาคารไทย ได้เตรียมรับมือปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด กำลังอยู่ระหว่างสร้างศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อติดตามธุรกรรมต้องสงสัย (Central Fraud registry) ซึ่งจะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ เพื่อให้ทราบข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
โดยเชื่อมโยงการดูแลจาก กสทช. และค่ายมือถือ ดังนั้น เมื่อชาวบ้านรับรู้ว่ามีการหลอกให้โอนเงินข้ามบัญชีต่างธนาคาร จะได้มีการยังยั้งได้ทันเหตุการณ์ รวมถึงเมื่อพบเห็นพฤติกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย จะมีแนวทางระงับการทำธุรกรรมบัญชีเงินฝากชั่วคราวอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อนุทิน" ย้ำถ้าโดนปรับพ้นมท.1 พร้อมถอนตัวร่วมรัฐบาลเป็นพรรคฝ่ายค้าน
"กองกำลังบูรพา" ยกระดับเข้ม ออกคำสั่งด่วน ห้ามคนไทยข้ามแดนทำงาน "กาสิโน-แหล่งบันเทิงปอยเปต"
จันทบุรี ด่านชายแดนคึกคัก ไม่สนคำขู่แรงงานยังเดินทางเข้าออกปกติ
"ชากัณฑ์สิม" แชมป์สิงห์ คัลเลอร์ทัวร์ ที่หัวหิน
จีนเตือนพลเมืองออกจากอิสราเอลด่วน
ตม.3 สนธิกำลังตำรวจพัทยา บุกทลาย บ่อนพนัน-คอลเซ็นเตอร์ อพาร์ทเมนท์หรู รวบผู้ต้องหากว่า 50 ราย
"ภูมิธรรม" โต้ "ฮุนเซน" อ้างเหตุขู่ปิดด่าน ย้ำไทยยึดหลักการป้องอธิปไตย มั่นใจกองทัพประเมินตามจริง
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดทำเนียบรัฐบาล ต้อนรับ "โอปอล Miss World 2025" ก่อนการประชุมครม.
"ด่านถาวรบ้านหาดเล็ก" ยังเปิดปกติ แต่ยังคงห้าม ผัก-ผลไม้ เข้ากัมพูชา นายอำเภอคลองใหญ่ เฝ้าติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ฉะเชิงเทรา แรงงานกัมพูชาวิตกกังวลสถานการณ์ชายแดน ไทย - กัมพูชา ไม่ขอกลับวอนให้สงบศึก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น