“องอาจ” แนะรัฐจับมือมูลนิธิ-เอกชน ทำศูนย์พักคอย

"องอาจ” ฝากรัฐเร่งทำศูนย์พักคอยในกทม.-ปริมณฑลรองรับคนติดเชื้อเพิ่มที่เข้าระบบดูแลที่บ้านไม่ได้ แนะจับมือองค์กรการกุศล มูลนิธิ เอกชน ชุมชน ร่วมฝ่าฝันวิกฤตโควิด-19

วันที่ 4 ส.ค. – นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำระบบดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้านหรือ Home Isolation (HI)  ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มสีเขียวว่า นับตั้งแต่เริ่มทำระบบดูแลที่บ้านในช่วงที่ผ่านมา ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ซึ่งทำงานดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่พบว่า ประชาชนผู้ด้อยโอกาสต้องหาเช้ากินค่ำในชุมชนแออัดที่ตรวจเบื้องต้นแล้วพบว่าติดเชื้อ ไม่สามารถเข้าสู่ระบบดูแลที่บ้านได้ เพราะลักษณะอยู่อาศัยของคนกลุ่มนี้จะอยู่รวมกันแออัดแบบห้องเช่าไม่มีห้องแยกพอที่จะกักตัวได้ จะไปใช้บริการของโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามก็ไม่มีเตียงเพียงพอที่จะรับได้ ส่วนจะไปเข้าระบบศูนย์พักคอยก็เพิ่งอยู่ในระหว่างจัดทำตามพื้นที่เขตต่างๆ ยังไม่พร้อมที่จะเปิดรองรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวได้ทันกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

 

นายองอาจกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบใดๆ ได้ก็จะกลับไปดูแลรักษาตัวเอง ตามมีตามเกิดกับสมาชิกในครอบครัว แบบปนกับผู้ไม่ติดเชื้อในห้องแคบๆ กันหลายคน อีกไม่นานคนในห้องทั้งหมดก็จะกลายเป็นผู้ติดเชื้อ และเนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นคนหาเช้ากินค่ำต้องออกไปทำมาหากินเพื่อมีรายได้หาซื้ออาหารประทังชีวิต โอกาสที่จะเอาเชื้อไปแพร่กระจายตามที่ต่างๆ ก็มีมากขึ้น และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การแพร่ระบาดใน กทม. และปริมณฑลมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรายังไม่สามารถทำให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบได้ด้วยความไม่พร้อมหลายประการ สำหรับคนหาเช้ากินค่ำที่พักอาศัยในชุมชนแออัดที่ติดเชื้อโควิดซึ่งเข้าระบบดูแลที่บ้าน (HI) ไม่ได้ ต้องเร่งนำคนกลุ่มนี้เข้าศูนย์พักคอย (CI) โดยเร็ว

 

นายองอาจกล่าวอีกว่า จึงอยากเรียกร้องให้ ศบค. และหน่วยราชการต่างๆ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดตั้งศูนย์พักคอย (CI) ขึ้นตามพื้นที่ต่างๆ ของ กทม. และปริมณฑลให้เพียงพอรองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายตัวออกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ การจะให้ระบบศูนย์พักคอย (CI) เกิดขึ้นได้เร็ว ทางราชการต้องแสวงหาความร่วมมือจากองค์กรการกุศล มูลนิธิ บริษัทห้างร้านเอกชน ชุมชน และโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่พร้อมจะเข้ามาดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ถ้ารอให้ทางราชการทำฝ่ายเดียวอาจไม่มีความพร้อมเพียงพอ และไม่ทันการ จึงควรขอการสนับสนุนร่วมมือจากภาคเอกชน ซึ่งเชื่อว่าภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือในการฝ่าฝันวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำสหรัฐขู่ตัดเงินสนับสนุนธุรกิจอิลอน มัสก์
จีนขอไทยรักษาเสถียรภาพหลังนายกฯถูกพักงาน
สื่อทั่วโลกรายงานนายกฯไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญพักงาน
ผู้ซื้อลอตเตอรี่นอร์เวย์สุดเซ็งหลังระบบคำนวนรางวัลผิด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) โดรน 'แมวไซเบอร์' ส่องสว่างกลางฟ้าในฉงชิ่ง
“จีน” เบรกแรง “ฮุนเซน” ลั่นไม่เคยขายจรวดยิงไกลถึงกทม. ให้
AOT ประกาศจุดยืนผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก เน้นบริการผู้โดยสารแบบ World Class Hospitality เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเสริมความแข็งแกร่งของประเทศ
อั้นไว้ก่อนค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลด “เบนซิน-แก๊สโซฮอล์” ทุกชนิด ปรับราคาลง 30 สต.
จันทบุรี ทหารพรานนาวิกโยธิน ร่วมสรรพสามิตร ตรวจยึดบุหรี่เถื่อนจำนวนมาก
"ก.ต." เห็นชอบ "อดิศักดิ์ ตันติวงศ์" ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา คนที่ 51

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น