“อนุทิน” ควง “ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์” ต้อนรับนทท.จีนไฟลท์แรก 269 คน พร้อมลุยเที่ยวเมืองไทย

“อนุทิน” ควง “ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์” ต้อนรับนทท.จีนไฟลท์แรก 269 คน พร้อมลุยเที่ยวเมืองไทย

วันนี้ ( 9 ม.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งผู้โดยสารได้เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน โดยสายการบิน Xiamen Airlines เที่ยวบิน MF833 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 12.19 น. มีผู้โดยสาร จำนวน 269 คน ภายหลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนรัฐบาลไทยนำพวงมาลัยดอกไม้สด และของที่ระลึก มอบให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพื่อเป็นการต้อนรับเข้าสู่ประเทศไทย

นายอนุทิน ระบุว่า ภาพรวมการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวจีนวันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากเป็นการเดินทางเข้ามาภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่รัฐบาลไทยกำหนด มีความเหมาะสมและเน้นความสำคัญของความปลอดภัยด้านสุขภาพ มีการอำนวยความสะดวก และความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว 100%

โดยทั้ง 3 กระทรวงฯ ได้รับนโยบายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ประจำปี 2566 และเมื่อจีนเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา จึงยืนยันว่า ประเทศไทยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งจากประเทศจีนและทั่วโลก

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของทอท.ในวันนี้ (9 ม.ค 66) จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยเป็นเที่ยวบินตรงจากจีน 2 ไฟลท์ มาจากเมืองเซี่ยเหมิน เที่ยวบิน MF833 ผู้โดยสารจำนวน 269 คน และ เที่ยวบิน CZ3081 มาจากกว่างโจว ผู้โดยสารจำนวน 252 คน ส่วนเที่ยวบินที่เหลือมาจากฮ่องกง
ทั้งนี้ คาดการณ์ตลอดทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน โดยเน้นย้ำ ให้เพิ่มบุคคลลากรการทำงานให้เพียงพอต่อการให้บริการนักท่องเที่ยว พร้อมยืนยันว่า ทุกท่าอากาศยานมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ

สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะ ที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น ขณะที่การให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน อันส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์ โควิด-19 พร้อมขอให้คนไทยทุกคน ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการป้องกันโรค โควิด-19 ที่ยังคงต้องดำเนินการอยู่

นอกจากนี้ นายอนุทิน ระบุว่า ได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรค หลังจากที่ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมติว่าประชากรในประเทศไทยได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมตลอดจนประเทศอื่นๆ ได้รับฉีดวัคซีนและมีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง จึงมองว่า ไม่จำเป็นต้องมีการเรียกตรวจเอกสารการรับวัคซีน จากนักท่องเที่ยว กรมควบคุมโรคจึงมีมติยกเลิกให้ผู้โดยสารที่อายุมากกว่า 18 ปี ไม่ต้องแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่นักท่องเที่ยวจะต้องทำประกันสุขภาพให้ครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทย สำหรับประเทศต้นทางที่มีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดโควิด-19 เดินทางกลับเข้าประเทศเท่านั้น พร้อมเน้นย้ำว่า การเดินทางเข้าไทย จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หวิดดับ! กองขยะล้นห้อง จุดเทียนบนหัวนอน เผาวอดห้องพ่อเฒ่า 69 ปี"
โฆษกทบ.โต้กลับ "กัมพูชา" บิดเบือนกล่าวหาไทย ย้ำทหาร-เจ้าหน้าที่คฝ. ดำเนินการ ระงับเหตุ "บ้านหนองหญ้าแก้ว" ตามหลักสากล ในเขตอธิปไตยไทย
ตำรวจสนธิกำลังฝ่ายปกครอง บุกทลายร้านค้ายึดน้ำท่อมและยาแก้ไอเถื่อน โดยเปิดร้านทำเล็บบังหน้า เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
“นันทิวัฒน์” ฉะ "ผู้นำกัมพูชา" รู้ดีรบไม่ชนะไทย บิดเบือนคนเขมรเจ็บฟ้องชาวโลก ย้ำแก้ปมชายแดน ต้องเอาให้จบในรุ่นเรา
การส่งเสริมเกษตรกับการยกระดับกาแฟไทย : ก้าวสู่เวทีโลกท่ามกลางกฎ EUDR
"กรมส่งเสริมการเกษตร" พัฒนากาแฟภาคเหนือด้วยความรู้และนวัตกรรม ถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม สร้างคุณค่า เพิ่มศักยภาพสู่ตลาดสากล

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​