สิ้นตำนานดาวร้ายเมืองไทย “เกชา เปลี่ยนวิถี” เสียชีวิตเพราะโควิด

เฟซบุ๊กสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยแจ้งว่า อิหม่ามเกชา แดนมะตาม (เกชา เปลี่ยนวิถี) นักแสดงอาวุโสวัย 95 ปี อดีตกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอุทัยธานี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 กรกฎาคม) จากการติดเชื้อโควิด-19

ขณะนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส.ส.อุทัยธานี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน กำลังประสานนำร่างของนายเกชาไปยังกุโบร์บ้านโป่ง จ.ราชบุรี บ้านเกิดของท่าน

โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายเกชา ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้ใหญ่ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รอง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส.ส.อุทัยธานี และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมหลานที่ จ.อุทัยธานี ต่อมาตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงนอนพักรักษาตัวที่ รพ.อุทัยธานี และเสียชีวิตในที่สุด

จาก ‘พระเอก’ สู่ ‘เจ้าพ่อดาวร้าย’ เมืองไทย

เกชา เปลี่ยนวิถี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2469 ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เริ่มอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นพระเอกละครเวทีร่วมกับ ส.อาสนจินดา, ชาลี อินทรวิจิตร ซึ่งทั้งสองท่านคือผู้ที่ชวนเกชามาแสดงหนังหลังจากหมดยุคของละครเวที

หนังเรื่องแรกของเกชาคือ ยอดคน (2498) รับบทพระเอกคู่กับ ประภาพรรณ นาคทอง ส่วนหนังสร้างชื่อคือ ไพรกว้าง (2499) เป็นพระเอกคู่กับสุขศรี ภมรพิบูล

น่าเสียดายที่เส้นทางการเป็นพระเอกหนังกำลังรุ่งโรจน์ ในปี พ.ศ. 2500 อัศวินภาพยนตร์ติดต่อให้เกชารับบทพระเอกในภาพยนตร์ นเรศวรมหาราช แต่เขาโดนจับเสียก่อน และต้องโทษจำคุกอยู่หลายปี พอพ้นโทษก็กลับมารับบทหัวหน้าผู้ร้ายแล้วโด่งดัง จึงกลายเป็นภาพจำมานับแต่นั้น

เกชาเคยให้สัมภาษณ์ว่าตอนหนุ่มๆ เขาใช้ชีวิตลูกผู้ชายแบบนักเลง คุมอยู่แถวหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพงจนนักเลงด้วยกันเรียก ‘เจ้าพ่อหัวลำโพง’ จนมาในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ถูกจับข้อหาเป็นภัยสังคม (ตอนนั้นเกชาเป็นคนคุมคิวรถเมล์) ถูกส่งตัวไปอบรมที่สถานพักฟื้นลาดยาวหลายปี

พอพ้นโทษ ปริญญา ทัศนียกุล ชวนเกชากลับมาแสดงหนัง เพชรตัดเพชร (พ.ศ. 2509) แต่เนื่องจากเป็นพระเอกไม่ได้แล้วจึงต้องเป็นผู้ร้าย แต่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้ร้ายใหม่ให้เป็น ‘ผู้ร้ายมาดพระเอก’ คือ เป็นหัวหน้าผู้ร้ายที่ใส่สูทสูบซิก้าร์ คอยสั่งลูกน้อง ปรากฏว่าเพชรตัดเพชรประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนทำให้เกชาได้รับบทหัวหน้าผู้ร้ายมาโดยตลอด

เพชรตัดเพชร (OPERATION BANGKOK ) เป็นภาพยนตร์ไทยที่ถ่ายทำในระบบ 35 มม. ออกฉายในปี พ.ศ. 2509 ที่โรงหนังเฉลิมเขตร์ สร้างจากบทประพันธ์ของ เศก ดุสิต และ ส. เนาวราช อำนวยการสร้างโดย ปริญญา ทัศนียกุล แห่งบริษัทสหการภาพยนตร์ไทยจำกัด มีผู้กำกับการแสดงถึง 3 ท่านคือ วิจิตร คุณาวุฒิ (เจ้าของฉายาเศรษฐีตุ๊กตาทอง) พร้อมสิน สีบุญเรือง (พันคำ) และประกอบ แก้วประเสริฐ

เพลงประกอบภาพยนตร์ที่โด่งดังคือเพลง เพชรตัดเพชร ขับร้องโดย คณะสุเทพโชว์ และเพลง ดวงใจ ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์เป็นหนังไทย

สำหรับผลงานเด่นๆ ของเกชา เปลี่ยนวิถี ได้แก่ ไพรกว้าง (2500), คนเหนือคน (2510), ประกาศิตจางซูเหลียง (2511), สิงห์เหนือเสือใต้ (2511), ดอนเจดีย์ (2512), คมแฝก (2512), ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)

ในยุคหลังนี้มีหนังที่เกชาได้เป็นพระเอกอีก 3 เรื่องคือ ลูกกบ (2512-โสภา), รอยปืน (2512-โสภา), เหนือบารมี (2512-เนาวรัตน์ วัชรา)

สำหรับคนรุ่นใหม่อาจรู้จัก เกชา เปลี่ยนวิถี ในฐานะพ่อของ นาตาชา เปลี่ยนวิถี (แอนนา) นางแบบและนักแสดงชื่อดังซึ่งเป็นอดีตภรรยาของ ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล