“อีอีซี” ลงทุนได้ตามแผน มั่นใจหนุนเศรษฐกิจไทยโต 3-5% ต่อปี

"คณิศ" เผยพื้นที่ EEC ลงทุนได้ตามแผน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโตได้ 3-5% ต่อปี มองสถานการณ์รัสเซียและยูเครน และปัญหาในหลายประเทศ ส่งผลให้เกิดการโยกย้ายลงทุนมาภูมิภาคเอเชีย และถือเป็นโอกาสของประเทศไทย ระบุซาอุดีอาระเบีย สนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น ปีนี้ 3 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี จัดงานเสวนา”แผนงานบูรณาการ อีอีซี สู่การสร้างโอกาสในการพัฒนาประเทศ” โดย นายคณิศ แสงสุพรรณ ประธานที่ปรึกษา สกพอ. ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ความสำเร็จ อีอีซี สู่ก้าวต่อไปในอนาคต” ระบุว่า ในอนาคตยังมีความท้าทายมากขึ้น เนื่องจากภารกิจของ อีอีซี จะลงลึกมากขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ ร้อยละ 3.2 ส่วนปีหน้า ร้อยละ 3.6

ทั้งนี้ หากทำได้ตามแผนที่กำหนดไว้ คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ร้อยละ 5 และภายใน 5 ปี รายได้ประชากรจากจะปรับเพิ่มจาก 7,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 10,000 เหรียญสหรัฐฯ

 

 

ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ระหว่างปี 2561-65 จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท ได้มีการลงทุนในส่วนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 6.5 แสนล้านบาทแล้ว โดยภายใน 3-4 ปีข้างหน้าโครงสร้างพื้นฐานหลักจะแล้วเสร็จทั้งหมด แต่จากโควิด-19 ทำให้ต้องมีการแก้ไขการลงทุนบางส่วน ทั้งในเรื่องของรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน โดยในระหว่างนี้กำลังเร่งพัฒนาในเรื่องของบุคลากร ภายในปี 2566 จะได้บุคลากร 1.5 แสนคน ซึ่งต้องได้มาตรฐานเดียวกัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายคณิศ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางในการใช้งบประมาณนั้นจะต้องเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนาพื้นที่อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG และอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะในอนาคตการสนับสนุนงบประมาณจะน้อยลง อุตสาหกรรมในพื้นที่จะต้องคิดโครงการที่สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนให้ได้มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตได้ร้อยละ 3-5 ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนในยุโรปเริ่มรู้จัก อีอีซี มากขึ้น รวมถึงซาอุดีอาระเบีย จะเป็นอีกประเทศที่จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น ซึ่งมีการวางแผนไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี ที่ 300,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สุขภาพ และปิโตรเคมี พร้อมทั้งได้มีการขอให้ไทยเข้าไปลงทุนในซาอุดีอาระเบียด้วย ในเรื่องของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย

 

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจการลงทุนไทยเพิ่มเติม ซึ่งกระบวนการเคลื่อนย้ายการลงทุนจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทั้งสถานการณ์รัสเซียและยูเครน และหลายประเทศ ที่มีปัญหาการลงทุน หรืออาจจะมีต้นทุนสูง ทั้งหมดอาจปรับเข้ามาอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นโอกาสของประเทศไทยด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กเสียงขั้วการเมือง รบ.อิ๊งค์เหนื่อย หากภท.เป็นฝ่ายค้าน
"กรวีร์" ไม่อยู่เฉยๆ โพสต์เตือนสติราชสีห์ เคยต้องพึ่งหนู สะพัดภูมิใจไทย โดนพท.บีบหนัก ต้องตอบรับเงื่อนไข สลับกระทรวงมท.หรือไม่ ภายใน 48 ชม.
"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น