ปรับครม.คนละครึ่ง ไพ่ใบสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

นริศขึ้นชั้นรมช.มหาดไทย ตามมติพรรคประชาธิปัตย์   ด้าน ๒ ป.ผลประโยชน์ลงตัว  แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยสูตร  “คนละครึ่ง” แบ่งกันคนละตัว    “เสี่ยแด๊ก” ธนกร ตามนายกฯจนได้ดี  หลังผงาดขึ้นเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ  จ่อคุมสื่อดูเรื่องประชาสัมพันธ์ผลงานให้นายกฯ เป็นเสนาบดีเทียบชั้นเจ้านายกลุ่มสามมิตร   ด้านลุงป้อมเล่นเป็นประเคนรมช.เกษตรฯ ให้กลุ่มปากน้ำ  ยกเก้าอี้ให้ “สุนทร”  มือขวา "เสี่ยเอ๋" ชนสวัสดิ์   ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว  โชว์รักษาคำพูด  แผ่บารมีอยู่กับพี่มีแต่รุ้ง ตีกินปรามคนอยากย้ายพรรค     

หลังจากอึมครึมเรื้อรังกันมานานในเรื่องของการปรับครม. ที่ก่อนหน้านี้หากใครยังจำได้พรรคประชาธิปัตย์เคยมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อ ๑๒ ต.ค.๒๕๖๕  ก่อนมีมติเอกฉันท์ให้ นริศ ขำนุกรักษ์ ส.ส.พัทลุง ๕ สมัย ขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนใหม่แทนที่นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทยที่ลาออกไป  หลังได้มติพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  รุ่งขึ้น ๑๓ ต.ค.  “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็แจ้งมติพรรคประชาธิปัตย์ให้สร.๑ ทราบทันทีว่าพรรคประชาธิปัตย์ประสงค์ที่จะขอปรับครม.ในส่วนโควต้าของพรรคแทนที่นิพนธ์  บิ๊กตู่รับทราบพร้อมแจ้งว่าการดำเนินการทุกอย่างขอให้รอหลังการประชุมเอเปค ๒๐๒๒ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙  พ.ย. แล้วเสร็จ  ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์เห็นนายกฯรับทราบเรื่องและรับปากว่าจะดำเนินการให้แล้ว ก็เลยไม่หือไม่อือเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทเพราะไม่อยากไปก้าวล่วงนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลซึ่งกำลังมีภารกิจสำคัญในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและจัดงานใหญ่ของประเทศ

แต่ภาพหลังการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ๒๐๒๒ แล้วเสร็จ  ชื่อของนริศก็ยังอยู่ในลิ้นชักกระแสเรื่องปรับครม.จากฝากฝั่งนายกฯก็ยังนิ่งอยู่ อย่าลืมว่าตำแหน่ง “มท.๒” สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้นถือเป็นตำแหน่งสำคัญ  เพราะเป็นเก้าอี้เสนาบดีที่สามารถเอาไปต่อยอดผลักดันผลงานทางการเมืองของพรรคได้ อาทิ  แจกที่ทำกิน บำบัดทุกข์บำรุงสุขชาวบ้าน ฯลฯ    ยิ่งในช่วงนับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้ง  ทุกตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคล้วนมีความสำคัญหมด  เพราะต้องช่วยกันขับเคลื่อนผลงานของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อสร้างผลงานให้ชาวบ้านเห็น  ความล่าช้าของบิ๊กตู่ทำให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาให้สัมภาษณ์เตือนสตินายกฯไปหลายครั้งหลายรอบ  ขนาดจุรินทร์ที่ว่าเย็นๆ

เจอบิ๊กตู่ดองเค็มชื่อนริศไปรอบนี้ถึงกลับควันออกหู  จนต้องออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “อึดอัด” เพราะโดนในพรรคบี้ให้ตามกดดันบิ๊กตู่  เพราะนายกฯทำแบบนี้มันเสียเหลี่ยมพรรคเก่าแก่สถาบันการเมืองหมด  นริศเป็นรมต.มันเป็น “มติพรรค”    บิ๊กตู่เป็นนายกฯต้องเข้าใจมารยาทพรรคร่วมรัฐบาล  ไม่อยากให้รัฐบาลกระเพื่อมก็เข้าใจได้  แต่โควต้าพรรคร่วมรัฐบาลเขาเสนอชื่อใครมานายกฯต้องหาจังหวะเวลาปรับให้เขา   เรื่องนี้บิ๊กตู่ทำไม่ถูกสร้างเรื่องเหยียบตาปลากันโดยไม่จำเป็น  ยิ่งรัฐบาลพรรคร่วมมีปัญหากินแหนงแคลงใจกันอยู่  ทั้งเรื่องกัญชา ทั้งเรื่องกฎหมายอื่นๆสารพัด ฯลฯ  ตัวนายกฯจะมาสร้างเรื่องให้เสียแนวร่วมของตัวเองทำไม       จากปมปัญหาเรื่องนี้ถึงขนาดทำให้เบอร์ใหญ่ของพรรคสีฟ้าเตรียมตั้งโต๊ะประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล  เพราะทนไม่ไหวรอไม่ได้ที่บิ๊กตู่ไม่นำพาจัดการเรื่องนี้ให้เสียที   เสียเวลายังพอว่าแต่เสียหน้ายอมไม่ได้         เดชะบุญโชคดีที่นายกฯไหวตัวทัน เร่งทูลเกล้าฯเรื่องนี้ ก่อนรัฐบาลแตกปัญหาปรับครม.เลยไม่ลุกลามออกไป

ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา (๓๐ พ.ย.๒๕๖๕) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ๓ คน และก็เป็นไปตามคาดคือ นริศขึ้นชั้นเป็นรมช.มหาดไทยตามที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ  แต่ที่กลายเป็นบิ๊กเซอไพรซ์คือการขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีของ “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.พลังประชารัฐ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ที่ผงาดขึ้นมาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ประทับตราเป็นเสนาบดีคนใหม่  แม้จะมีข่าวมาตลอดว่าเสี่ยแด๊กมีชื่อลุ้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ในโควต้าของบิ๊กตู่เช่นเดียวกับ  “แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ  ที่ต่างฝ่ายต่างก็สร้างผลงานแข่งกันเป็น “เด็กสร้าง” ของบิ๊กตู่กันสุดกู่  โดยมีเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเดิมพัน  ธนกรเคยเป็นอดีตโทรโข่งรัฐบาล ทำงานใกล้ชิดนายกฯ  ตอนถูกพักเบรกช่วงตีความ ๘ ปี ก็ไปเทียวไล้เทียวขื่อหน้าบันไดประตูทางขึ้นกระทรวงกลาโหม  ไปให้กำลังใจบิ๊กตู่อยู่บ่อยครั้งอัพเฟซให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ   ส่วนแรมโบ้ก็ออกโรง “ปะ ฉะ ดะ” พวกเห็นต่างบิ๊กตู่ เป็นขุนพลเอกต่อสู้กับมารผจญของนายกฯมาตลอด  อดีตก็เป็นคนไปก็ตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)  แต่ดวงไม่ดีไปพลาดโดนหวยออนไลน์กินจนเป็นเรื่อง   เส้นทางเป็นใหญ่สู่ดาวดวงใหม่เลยสะดุด  แม้ปัจจุบันจะรวมพลคนรักสถาบันแฟนคลับบิ๊กตู่ตั้งพรรคใหม่ใช้ชื่อว่า “พรรคเทิดไท” แต่ก็ดูจะโกยคะแนนไม่ทันเสี่ยแด๊กไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้ารายชื่อรมต.ใหม่จะออก   หลายฝ่ายก็คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่บิ๊กตู่จะเอาเก้าอี้รัฐมนตรีไปประเคนให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ  ซึ่งเป็นพรรคน้องใหม่ที่บิ๊กตู่จะไปร่วมหัวจมท้ายด้วยกันในอนาคต  เพราะในพรรคก็มีคนที่มีฝีไม้ลายมือเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรีได้อยู่หลายคน โดยเฉพาะ  “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  แต่พอมาออกแบบนี้โอกาสของพีระพันธุ์ก็อาจจะมาเป็นเลขาธิการนายกฯแทนดิสทัต โหตระกิตย์  หรือไม่ก็อาจไม่ขอเป็นอะไรเลยเพราะพีระพันธุ์คงอยากทุ่มเวลาลุยเลือกตั้งหาเสียงให้พรรคอย่างเต็มที่   ส่วนเสี่ยแด๊กมาเที่ยวนี้ก็คงมาคุมสื่อลุยเรื่องพีอาร์ผลงานบิ๊กตู่อย่างเต็มตัว เพราะถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว  ธนกรขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีรอบนี้  กลายเป็นว่าบารมีเทียบเท่านายเก่านั่งชิดกลุ่มสามมิตรอย่าง “สุริยะ สมศักดิ์ อนุชา” กันเลยทีเดียว  แต่เป็นก๊วนสามมิตรซีกไทยคู่ฟ้าไม่ใช่ฝากป่ารอยต่อฯ

การปรับครม.คราวนี้คงเป็นไม้สุดท้ายของครม.เรือแป๊ะแล้ว  เพราะเหลือเวลาไม่ถึง ๔ เดือนก็จะครบอายุสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ แล้ว  เพราะฉะนั้นรอบนี้จึงเป็นการปรับทัพครั้งสุดท้ายของบิ๊กตู่ก่อนเข้าเส้นชัย   อย่างที่รู้ว่านอกจากเก้าอี้รัฐมนตรีของนิพนธ์ที่ว่างลงแล้ว   อดีตยังมีโควต้ารัฐมนตรี ๒ ตัวของพลังประชารัฐที่ว่างอยู่   คือ “ร.อ.ธรรมนัส-นฤมล”  ที่ถูกบิ๊กตู่ปลดพ้นออกไป    เที่ยวนี้หลายคนเลยคิดว่าบิ๊กตู่อาจจะยึด  ๒ เก้าอี้มาทั้งหมดเพื่อต่อยอดการเมือง   หรือจะแบ่งให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐสักตัว  ที่สุดก็อย่างที่เห็น  ๒ ป.จัดสรรอำนาจ แบ่งปันเก้าอี้รัฐมนตรีกันลงตัว ด้วยสูตรแบ่งรัฐมนตรีกัน  “คนละครึ่ง”  บิ๊กตู่ปูนบำเหน็จให้ธนกร  ฝ่ายลุงป้อมก็เอาโควต้ารัฐมนตรีไปประเคนให้กลุ่มปากน้ำสนองความต้องการของบ้านใหญ่ จ.สมุทรปราการ  ที่ก่อนหน้านี้ลุงป้อมเคยลงพื้นที่เมื่อ ๒๕ ก.ค.ที่ผ่านมา  และเกิดภาพ  “กราบที่ปากน้ำสะเทือนถึงทำเนียบรัฐบาล”  หลังกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.กลุ่มปากน้ำก้มตัวลงกราบลุงป้อมวันไปลงพื้นที่จ.สมุทรปราการ   หลังเกิดเหตุการณ์ ๖ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ  ประกอบด้วย ๑.กรุงศรีวิไล   ๒. ฐาปกณ์  กุลเจริญ ๓.ภริม พูลเจริญ ๔.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ๕.อัครวัฒน์ อัศวเหม และ ๖.ต่อศักดิ์ อัศวเหม ( ส.ส.บัญชีรายชื่อ )   โหวตสวนมติพรรคไม่ไว้วางใจ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.๑  โดยอ้างว่าเป็นรัฐมนตรีที่ไม่เอาใครเข้าถึงยากขออะไรก็ไม่ได้ กับ  “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น  รมว.แรงงาน บ้านใหม่ชลบุรีที่เป็นอริศัตรูกันอยู่แล้ว

แต่แทนที่ลุงป้อมจะลงโทษกลุ่มนี้ที่สวนมติพรรคแหกคอกส.ส.ใหญ่   ตรงข้ามกลับตามไปโอ๋ก๊วนนี้ถึงถิ่นเอาใจกันแบบสุดๆ  ถึงขนาดประกาศบนเวทีว่าได้ส.ส. ๖ คนต้องเป็นรัฐมนตรีแล้ว และรับปากว่าปรับครม.เที่ยวหน้าจะดูแลให้  ที่สุดหวยล็อกก็มาออกที่  “สุนทร ปานแสงทอง”  อดีตรองนายกฯอบจ.สมุทรปราการ หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น ว่าที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์   ในโควตาของกลุ่มปากน้ำแว่วว่าสุนทรคือนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็น “มือขวา” ของ “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ อัศวเหม  ถือว่าเป็นลูกหม้อของกลุ่มปากน้ำขนานแท้  อดีตเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัย วัฒนา อัศวเหม ผู้พ่อ จนมาอยู่กับชนสวัสดิ์รุ่นลูก ตบรางวัลให้กลุ่มปากน้ำของลุงป้อมเที่ยวนี้  ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว  ด้านหนึ่งก็การันตีความเป็นคนจริงของลุงป้อม  พูดจริงทำจริง สัญญาว่าจะให้ก็ได้เลย  สองแสดงบารมีให้คนในพรรคกลุ่มก๊วนต่างๆเห็นอยู่กับพี่มีแต่รุ่งไปหน้า  สามกระตุกพวกที่อยากย้ายออกเหยียบเบรกส.ส.ที่อยากจะหนีพลังประชารัฐไปให้หัวทิ่ม  บี้กันหนักอัดกันแรงเกทับกันแหลกแบบนี้  ส่อแววแตกกันจริงหรือแบ่งเค้กประสานประโยชน์ของ ๒ ป. ลับ ลวง พราง ฝ่ายตรงข้าม   ปรับครม.สูตรคนละครึ่ง  ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายก่อนเลือกตั้งคราวนี้ของบิ๊กตู่กับลุงป้อม  ต้องดูกันยาวๆ ว่าจะได้ดอกผลกลับคืนมามากน้อยแค่ไหนก่อนถึงวันเลือกตั้ง

/////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายชนินทร์" ตั้งข้อสังเกต ดีเอสไอลงพื้นที่เขากระโดง อาจมีนัยสำคัญทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อปชช.ผู้บริสุทธิ์
รองนายก อบจ.โคราช ผนึกกำลังเอกชน นำแบคโฮลุยกำจัดวัชพืช ป้องกันน้ำเน่าเสียคลองซับก้านเหลือง
ซีพีเอฟ รับรางวัลพระปกเกล้า ด้านสำนึกพลเมือง ตอกย้ำองค์กรต้นแบบสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม
"การเคหะแห่งชาติ" หวังกระตุ้นเศรษฐกิจสระบุรี เปิดจองสิทธิเช่าที่ดินทำเลเด่น ในบ้านเอื้ออาทรสระบุรี (แก่งคอย)
สมุทรปราการ ป.ป.ส. ลุยเผาสิ่งเสพติดล็อตใหญ่ 26 ต้น! ปิดบัญชี 139 ล้านเม็ด ย้ำนโยบายรัฐบาลปราบจริงจัง
พิธีลงนาม MOU สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด และ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​