วันนี้ (24พ.ย. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเก็บตกสีสันกิจกรรมที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป คือกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวและทุบข้าวตามวิถีโบราณ ซึ่งจัดขึ้น ณ.บริเวณสระน้ำสาธารณประโยชน์บ้านขอนแก่น (แปลงผลิตเมล็ดพันธ์ข้าว) ตำบลหนองฮะ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยมี นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้มอบหมายให้ นายศักรินทร์ ทุมเสน ปลัดจังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปเป็นประธานในกิจกรรมดังกล่าว และมีว่าที่ร้อยตรีอดิศักดิ์ วิโสรัมย์ นายอำเภอสำโรงทาบ นายมีชัย พิมพ์ทอง นายก อบต.หนองฮะ อำเภอสำโรงทาบ นายกอบต.สำโรงทาบ นายกอบต.หนองไผ่ล้อม และนายแพทย์เก่ง สืบนุการณ์ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอสำโรงทาบ มอบหมายให้รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสำโรงทาบเดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านจิตอาสาพระราชทานจำนวน 150 คน ได้เดินทางมาร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ั
ว่าที่ร้อยตรีอดิศักดิ์ วิโสรัมย์ นายอำเภอสำโรงทาบ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการรวมพลังสามัคคีของคนในชุมชน มาทำกิจกรรมในแปลงนาสาธิต โดยช่วงที่ลงมือดำนาชาวบ้านและกลุ่มชุมชนจะมาร่วมทำกิจกรรมหลังจากถึงฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งก็ได้เชิญชวนพี่น้องจิตอาสากำนันผู้ใหญ่บ้านตลอดจนหน่วยงานราชการของอำเภอสำโรงทาบ มาร่วมกิจกรรมโดยการลงแขกเกี่ยวข้าว หลังจากนั้นก็ได้นำข้าวมาทุบในลานตีข้าว โดยในระหว่างการตีข้าวก็จะลงมือตีพร้อมกันประกอบกับการใช้เสียงเพลงเป็นจังหวะ โดยมีหน่วยงานหลายภาคส่วนเดินทางมาร่วมงานในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้กันอย่างสนุกสนาน กับบรรยากาศที่หาชมได้ยาก เพราะเราจะยึดจารีตประเพณีวัฒนธรรมตั้งแต่โบราณ นำมาสืบทอดให้คนรุ่นหลังได้ดูได้ชมและปฏิบัติตาม
นายศักรินทร์ ทุมเสน ปลัดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีของอบต.หนองฮะ ที่หลังเสร็จฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งมันสอดคล้องของวิถีชีวิตชาวตำบลหนองฮะเรามีแปลงนาแปลงข้าว เมื่อถึงหน้าข้าวสุกแล้วลงแขกเกี่ยวข้าวกันเป็นความสมัครสมานสามัคคีกัน คือทำคนเดียวมันช้าหากเราร่วมมือกันทำมันก็เสร็จไว และมีความพร้อมเพรียงกันสมานสามัคคีกัน มีความผูกพันกันด้วยเป็นประเพณีของที่นี่ด้วย เป็นสิ่งที่ดีงามพอเก็บเกี่ยวแล้วเราก็มานวดข้าวร่วมกัน
ซึ่งในครั้งนี้ ตนก็ได้มาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ซึ่งการได้ร่วมไม้ร่วมมือกันเกี่ยวข้าวและการนวดข้าวตีข้าวประกอบกับนำเสียงดนตรีนำมาประยุกต์ ก็เพื่อที่จะให้สอดคล้องกับสิ่งใหม่ๆจึงอยากจะให้โครงการดีดีอย่างนี้ได้สืบทอดกันไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะหันไปหาแต่สิ่งแปลกๆจนลืมกลิ่นไอข้าวท้องไร่ท้องนาบ้านเรา ซึ่งการจัดกิจกรรมในัวนนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีโดยมีหน่วยงานภาคเกษตร ธกส. โรงพยาบาลสาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา นายกอบต. ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมเห็นแล้วมีความสุข ที่พี่น้องชุมชนมีความรักความสามัคคีกันอย่างนี้.
ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์