รัฐมนตรีอาวุโส ลูฮัต พันด์ไจตัน ผู้ประสานงานเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสในเกาะชวา บาหลี และอีก 15 ภูมิภาค ได้บอกถึงสภาวะปัจจุบันว่า การเสียชีวิตมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น หนึ่งในปัญหานี้คือ จำนวนเตียงที่ไม่เพียงพอของโรงพยาบาล ทางการจึงจะให้มีการเพิ่มเตียงในหอผู้ป่วยหนัก ในพื้นที่ที่มีการรายงานการเสียชีวิตสูงสุด เช่นบาหลีและเกาะชวา ซึ่งบาหลีก็กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนออกซิเจนด้วยเช่นกัน
ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ก็ได้ประกาศขยายการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วน เนื่องจากแผนต่างๆในการเพิ่มการติดตามกลุ่มเสี่ยง กำลังอยู่ในช่วงสรุปถึงการดำเนินการ โดยตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ระบบติดตามตัวแบบดิจิทัลจะถูกนำมาใช้ในหน่วยงานต่างๆ
ระบบนี้ได้รับการต่อยอดมาจากการเรียนรู้ขององค์การอนามัยโลก โดยผู้ที่จบไปแล้วจากโรงเรียนอาชีวศึกษากว่า 7 พันคน ทั้งหมดจะเข้ามาดำเนินงานตามระบบนี้ โดยจะสามารถติดตามผู้ที่มีการสัมผัสผู้ติดเชื้อ แล้วนำไปสู่การกักกันแบบรวมในศูนย์ที่มีแพทย์ 2 -3 คนและทีมพยาบาล หรือจะเป็นการกักตัวเองที่บ้าน โดยจะมีชุมชนเฝ้าระวังที่ดีขึ้น และกำลังหารือว่าจะให้มีการใช้ธงขาวเพื่อเป็นเครื่องหมายของผู้ที่ต้องกักตัวหรือไม่
การขยายการล็อคดาวน์พื้นที่บางส่วน จะมีไปจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม โดยมีการปรับเปลี่ยนจากมาตราการเดิมเล็กน้อย คือการอนุญาตให้รับประทานอาหารในร้านอาหารริมทางและอยู่กลางแจ้งได้ แต่จำกัดเวลาไว้ที่ 20 นาที
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อินโดนีเซียรายงานผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 4 วัน โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 1,566 คนทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 82,000 คน ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.1 ล้านคน ทั้งนี้ อินโดนีเซียสามารถทำการฉีดวัคซีนแบบครบ 2 โดสให้ประชากรไปได้เพียงไม่ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด 270 ล้านคน