ย้อนไฟใต้ “ทักษิณ” จุดชนวน แต่วันนี้กลับโยนบาปคนอื่น ข้ออ้างสารพัด

ย้อนไฟใต้ "ทักษิณ" จุดชนวน แต่วันนี้กลับโยนบาปคนอื่น ข้ออ้างสารพัด

จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดี กล่าวในรายการ CareTalk x Care ClubHouse เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ตุลาคม โดยนายทักษิณกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์รุนแรง 18 ปี สลายชุมนุมตากใบ ก่อนโยนบาปให้ไปถามพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะรู้ดีเนื่องจากเวลานั้นเป็นผบ.ทบ. นายทักษิณยังอ้างอีกว่าสันติบาลมาเลเซียเคยเล่าแผนจ้องล้มรัฐบาลทักษิณ ทำให้คนมุสลิมต้องรังเกียจ

อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ หากย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูลในอดีต จะพบว่าสถานการณ์ได้ดีขึ้นมามากแล้วในยุครัฐบาลชวน หลีกภัย แต่เมื่อนายทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ 2 สมัยตั้งแต่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 จนถึงถูกรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไฟใต้ได้กลับลุกโชนอีกครั้ง เพราะนายทักษิณใช้นโยบายกำปั้นเหล็กในการแก้ปัญหา และออกนโยบายผิดพลาด แต่วันนี้กลับมาแก้ตัวและโยนบาปให้คนอื่น ดังนั้นทีมข่าวท็อปนิวส์จะพาย้อนอดีตไปตรวจสอบความจริงเรื่องนี้อีกครั้งว่านายทักษิณทำอะไรไว้บ้าง จึงทำให้ไฟใต้ลุกโชน

-30 มีนาคม 2545 พลตำรวจเอกสันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ขณะนั้น เสนอยุบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาภาคใต้เกือบทั้งหมด รวมถึง 2 หน่วยงานหลักสำคัญ ได้แก่ ศอ.บต. ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นคนดูแล และ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 หรือ พตท. 43 ที่กองทัพบกรับผิดชอบ

-ในการประชุมฝ่ายความมั่นคง นายทักษิณบอกว่าสถานการณ์ภาคใต้ไม่มีโจรแบ่งแยกดินแดน อยากให้ยุบหน่วยงานทหารเฉพาะกิจที่อยู่ในพื้นที่ และใช้ตำรวจเข้าแก้แทน ทำให้วันที่ 30 เมษายน 2545 ที่ประชุม สมช.มีมติให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ และมอบหมายให้ตำรวจเข้ามาเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบปัญหาภาคใต้

-เดือนมิถุนายน 2545 เกิดเหตุนายพักคูรอซี ดอเลาะ ส.จ.นราธิวาส เขตอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ถูกเจ้าหน้าที่อุ้มหายไปจากสนามบินดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายพักคูรอซีเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้สร้างความไม่พอใจต่อประชาชนในพื้นที่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

-4 มกราคม 2547 มีการก่อเหตุเผาโรงเรียน 20 แห่งในนราธิวาส เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนกลุ่มคนร้ายบุกปล้นปืน 413 กระบอก ในค่ายปิเหล็ง พร้อมสังหารทหารไป 4 นาย และเป็นจุดเริ่มต้นของไฟใต้รอบใหม่

-นายทักษิณด่าผู้ก่อความไม่สงบซ้ำว่าเป็นโจรกระจอก จากนั้นใช้มาตรการรุนแรงเอากำลังเข้าปราบปราม จนเกิดการต่อต้านต่อสู้อย่างหนักจากประชาชนในพื้นที่

-28 เมษายน 2547 เกิดเหตุบุกโจมตีที่มั่นทางทาง 11 จุดใน 3 จังหวัด ปัตตานี ยะลา สงขลา แต่จุดใหญ่ที่สุดคือมัสยิดกรือเซะ ปัตตานี ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหลบเข้าไปใช้เป็นที่กำบังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะ เวลานั้นฝ่ายความมั่นคงมี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรองนายกฯ มีพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร ลูกพี่ลูกน้องกับทักษิณเป็นผบ.ทบ. ส่วนผู้บัญชาเหตุการณ์คือ พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี รอง ผอ.กอ.รมน. และมี พลโทพิศาล วัฒนวงษ์คีรี เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 สุดท้ายเหตุการณ์นี้ผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิตในมัสยิด 32 ราย ขณะที่ตลอดทั้งวันที่มีการปะทะกันหลายจุดมีคนเสียชีวิตรวม 108 ราย เป็นเจ้าหน้าที่จำนวน 5 ราย และผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

– 25 ตุลาคม 2547เกิดเหตุชาวบ้านชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านจำนวน 6 คนที่ถูกจับกุมตัว จากนั้นเกิดเหตุการณ์ชุลมุน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปิดล้อมพื้นที่และสลายการชุมนุม มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ 6 คน และถูกควบคุมตัวไปราว 1,370 คน แต่ระหว่างทางลำเลียงผู้ชุมนุมไปตรวจสอบ เกิดเหตุผู้ชุมนุมแออัดทับกันบนรถบรรทุกนานกว่า 6 ชั่วโมง หมดสติ หายใจไม่ออกส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอีก 85 คน

-จากนั้นไฟใต้โหมกระพรือถึงขีดสุด มีการก่อเหตุร้าย คนบริสุทธิ์สังเวยชีวิตเป็นเบือ ทหารตำรวจข้าราชการตายเป็นร้อย แต่แล้วจู่ๆวันที่ 21 กรกฏาคม 2548 นายทักษิณกลับสั่งยกเลิกกฎอัยการศึกใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่งผลให้ทหารไร้เครื่องมือทำงานผู้ก่อความไม่สงบเริงร่า

-หลังรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2554 วันที่ 19 กรกฏาคม 2554 นายทักษิณได้กล่าวคำขอโทษพี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยยอมรับว่าในยุคตนเองมีนโยบายผิดพลาดในการแก้ปัญหาความไม่สงบ โดยเฉพาะการพูดคำว่า โจรกระจอก

ซึ่งในยุคนายทักษิณบริหารประเทศ ด้วยนโยบายกำปั้นเหล็กและดูถูกผู้ก่อความไม่สงบว่าเป็นโจรกระจอก ทำให้ปี 2547 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ จำนวน 601 ครั้ง , ปี 2548 จำนวน 1,006 ครั้ง , ปี 2549 จำนวน 1,249 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1,400คน นอกจากนี้ยังมีบาดเจ็บและพิการรวมกันแล้วกว่า 2,180 คน

ตัดภาพมาในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศ ซึ่งใช้หลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รวมถึงมีการเจรจาพูดคุยสันติภาพกับแกนนำตัวจริง ทำให้สถิติเหตุการณ์รุนแรงลดลงต่อเนื่อง

-ปี 2558 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 264 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 127 ราย
-ปี 2559 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 193 ครั้ง เสียชีวิต 116 ราย
-ปี 2560 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 432 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 99 ราย
-ปี 2561 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 161 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 62 ราย
-ปี 2562 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 121 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 72 ราย
-ปี 2563 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 53 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 62 ราย
-ปี 2564 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 84 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 38 ราย บาดเจ็บ 85 ราย ซึ่งแม้ปี 2564 จะมีเหตุการณ์ความมั่นคงเพิ่มขึ้นหากเทียบกับปี 2563 แต่ความสูญเสียกลับลดลงต่ำที่สุดในรอบ 17 ปีที่ไฟใต้เริ่มปะทุเป็นต้นมา นับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 ซึ่งมีการปล้นปืน 413 กระบอก จากค่ายค่ายปิเหล็ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดโรงเรียนดนตรียามาฮ่า เซ็นทรัลโคราช ชูศักยภาพหลักสูตรมาตรฐาน Yamaha Corporation Japan สร้างเสริมทักษะนักดนตรีสู่มืออาชีพระดับโลก
"ผู้เสียหาย" ร้องกองปราบฯ ถูกหลอกลงทุน บริหารร้านขายกัญชา สูญเงินนับล้าน
"EOD ตชด.21" บุกทำลาย "จรวด BM 21" ที่ทหารเขมร ยิงใส่พื้นที่พลเรือนไทย อ.พนมดงรัก หวั่นความปลอดภัยของชาวบ้าน
รมช.สุชาติ เปิดงาน ธงเขียวราคาประหยัด หนุนปุ๋ยถูกยาดี ส่งตรงถึงมือเกษตร
เตรียมเปิดศูนย์ธาราบำบัดเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ แห่งแรกในอำเภอเมืองชลบุรี
น้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มอินเดียดับ-สูญหายครึ่งร้อย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​