“ด.ต.” ขโมยปืนหลวง คอตกรับสารภาพ ลั่นหมดปัญญาหามาคืน

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงคนเดียว เชื่อว่าไม่ได้ทำมาเดือนสองเดือนคาดว่าต้องทำมานานแล้ว แต่ต้องขยายผลต่อไปมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด ได้ไล่ตรวจสอบอาวุธปืน จนทราบว่าปืนหายไปจำนวนมาก ตัวผู้ต้องหาเองหมดปัญญาจะเอาปืนมาคืนจึงหลบหนีไปอยู่แถวชายแดน 7-8 วันแล้ว แต่ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อบ้านไม่ได้

ทั้งนี้ในส่วนของผู้บังคับบัญชาไล่ลงมาตั้งแต่ ผู้กำกับการฯ(ผกก.) รองผู้กำกับการปราบปราม(รอง ผกก.ป. ) พบว่ามีความบกพร่องในหน้าที่ ปล่อยปละละเลย ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ที่ จ.ระยอง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนเก่า และตนสมัยเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.เคยกำชับเป็นหนังสือกันเรื่อยมาแต่ก็เกิดขึ้นอีก โดยพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์. ผบ.ตร. กำชับต้องตามปืนกลับมาให้ครบ

ภายหลังกระแสข่าวนี้เผยแพร่ออกไป บรรดาผู้ที่รับซื้อ และรับจำนำปืนหลวงไป ได้นำปืน 27 กระบอกใส่กระเป๋าสีน้ำตาลมาทิ้งคืนไว้บริเวณสโมสรตำรวจเนื่องจากกลัวความผิด มาทิ้งที่สโมสรตำรวจ ในช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 20 ต.ค. โดยระหว่างนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำลังสอบสวน ด.ต.เชาวลิต นานกว่า 30 นาที ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิชอบ ภาค 1 ที่ จ.สระบุรี ช่วงเที่ยงวันนี้ ( 21 ต.ค)