ชายแดนใต้ยุค “บิ๊กตู่” ดีขึ้น แต่ “ก้าวไกล” กลับหาเสียงสุมไฟ

จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล เปิดนโยบายที่จะใช้หาเสียงเลือกตั้งชุดแรกของพรรคได้แก่ “การเมืองก้าวหน้า” ซึ่งประกอบด้วยนโยบายสำคัญและสะท้อนจุดยืนของพรรค อาทิ การนิรโทษกรรมคดีการเมือง ,การแก้ไขมาตรา 112 ,การให้ใบแดงนายพลห้ามนายพลเกษียณเป็นรัฐมนตรีจนกว่าจะเกษียณครบ 7 ปี นอกจากนี้ยังมีอีกนโยบายที่ถูกจับตามองและถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าพรรคก้าวไกลคิดดีแล้วหรือไม่ ก็คือนโยบายยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. และยกเลิกกฎอัยการศึกในจังหวัดชายแดนใต้ โดยพรรคก้าวไกลอ้างว่า ขัดขวางการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้

แต่จากการตรวจสอบของทีมข่าวท็อปนิวส์ พบว่า การเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ปัญหาไฟใต้ของ กอ.รมน. โดย กอ.กอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งการประกาศใช้กฎอัยการศึกหรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางพื้นที่ของจังหวัดชายแดนใต้ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กลับไม่ได้ขัดขวางการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ เพราะจากสถิติที่ผ่านมาโดยเฉพาะในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ปัญหาความไม่สงบมีทิศทางที่ดีขึ้น หากเทียบกับยุครัฐบาลก่อนหน้า

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยสถิติเหตุความมั่นคง” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์บริหารประเทศ มีสถิติความไม่สงบดังนี้

-ปี 2558 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 264 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 127 ราย
-ปี 2559 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 193 ครั้ง เสียชีวิต 116 ราย
-ปี 2560 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 432 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 99 ราย
-ปี 2561 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 161 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 62 ราย
-ปี 2562 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 121 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 72 ราย
-ปี 2563 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 53 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 62 ราย
-ปี 2564 มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 84 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 38 ราย บาดเจ็บ 85 ราย แต่แม้ปี 2564 จะมีเหตุการณ์ความมั่นคงเพิ่มขึ้นหากเทียบกับปี 2563 ความสูญเสียกลับลดลงต่ำที่สุดในรอบ 17 ปีที่ไฟใต้เริ่มปะทุเป็นต้นมา นับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 ซึ่งมีการปล้นปืน 413 กระบอก จากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง จังหวัดนราธิวาส

นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกับการแก้ไขปัญหาไฟใต้ในยุครัฐบาลอื่นๆ ก็จะเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง อาทิ ในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งใช้นโยบายกำปั้นเหล็กและใช้วาทกรรมโจรกระจอก ปี 2547 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ จำนวน 601 ครั้ง , ปี 2548 จำนวน 1,006 ครั้ง , ปี 2549 จำนวน 1,249 ครั้ง

ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ปี 2554 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ จำนวน 680 ครั้ง, ปี 2555 จำนวน 542 ครั้ง และปี 2556 จำนวน 615 ครั้ง

ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลก่อนหน้านี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายหรือแนวคิดเช่นนี้ เพราะพรรคก้าวไกลหรืออนาคตใหม่มีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ กลุ่ม PerMAS ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเคลื่อนไหวคู่ขนานร่วมกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อแบ่งแยกดินแดน เช่น การประกาศส่ง นายอารีฟิน โสะ 4 ลงสมัครส.ส.ก้าวไกล เขต 1 จังหวัดปัตตานี ซึ่งนายอารีฟิน เป็นอดีตประธานกลุ่ม PerMAS รุ่นที่ 4 รวมถึงเป็นแกนนำเยาวชนปลดแอกยะลา หรือ กรณีนายอาร์ฟาน วัฒนะ อดีตรองประธาน PerMAS ก็เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่นราธิวาส รวมทั้งเป็นแนวร่วม 3 นิ้วในพื้นที่ ฉะนั้นนโยบายของพรรคก้าวไกลที่ออกมาไม่รู้ว่าต้องการเจาะคะแนนเสียงคนที่มีแนวคิดเช่นนี้ หรือมีนัยยะแอบแฝงด้านความมั่นคงอย่างอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งหากมีการยกเลิกกอ.รมน. และยกเลิกกฎอัยการศึกตามนโยบายของพรรคก้าวไกล อาจกระทบต่อการแก้ไฟใต้ และเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้ก่อเหตุความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ไฟใต้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง

บิ๊กตู่, ก้าวไกล, ชายแดนใต้, หาเสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง