ศาลรธน. นัดตัดสินคดียุบ “พรรคไทรักธรรม” 19 ต.ค.นี้

ศาลรธน.นัดตัดสินคดียุบพรรค “ไทรักธรรม” 19 ต.ค.นี้ เหตุฝืนฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 30 ให้เงินจูงใจสมัครสมาชิกพรรค

วันที่ 21 ก.ย. 65 ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้อง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคําสั่ง ยุบพรรคไทรักธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 30 เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค ตามมาตรา 92 วรรคสอง และห้ามให้ผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคของผู้ถูกร้อง และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั่งยุบพรรคผู้ถูกร้องตามมาตรา 94 วรรคสอง

ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนําไปสู่การวินิจฉัยและเห็นว่าคดีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอจะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง โดยกําหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคําวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังวันพุธที่ 19 ตุลาคมนี้ เวลา 15.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ

สำหรับคำร้องยุบพรรคไทรักธรรม เนื่องจากกระทำการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 30 เสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทรักธรรม ปัจจุบันมี มีนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นหนึ่งในแกนนำ “กลุ่ม 16” ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับพรรคเล็กในสภาอยู่ตอนนี้ ซึ่งคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากวันที่ 7 ม.ค.2565 กกต. ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งยุบพรรคไทรักธรรม ในความผิดตามมาตรา 92 (3) ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง กรณีให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยเรื่องดังกล่าว กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าพรรคไทรักธรรมมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่าเป็นการจูงใจด้วยทรัพย์สินเพื่อให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต.ได้มีมติดำเนินคดีอาญาไปแล้ว

 

นอกจากนี้ ยังพบว่าในการยื่นขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2564 ที่มาตรา 83 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณเงินเพื่อจัดสรรหาให้กับพรรคการเมือง โดย (4) ให้ใช้จำนวนสาขาพรรคการเมืองมาเป็นเกณฑ์ด้วยนั้น ปรากฏว่าหลังพรรคไทรักธรรมได้แจ้งข้อมูลจำนวนสาขาพรรคของปี 2563 ต่อ กกต. ว่ามีสาขาพรรคกว่า 100 แห่ง ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกพรรคการเมือง แต่ภายหลังจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองมีมติอนุมัติวงเงินสนับสนุนไปแล้ว พบว่าพรรคไทรักธรรมได้มีหนังสือแจ้งขอยกเลิกสาขาพรรคจำนวน 79 สาขามายัง กกต. ทั้งที่เจตนารมณ์ของการจัดสรรเงินกองทุนฯที่กฎหมายกำหนดต้องการให้พรรคการเมืองนำเงินที่ได้ไปบำรุงสาขาพรรค การที่พรรคมาขอยกเลิกสาขาหลังได้รับอนุมัติวงเงินอุดหนุนแล้วจะถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดตัวเครื่องบิน "JL-10" เครื่องบินฝึกนักบินรุ่นใหม่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สัตว์ป่าร่วม 'ปาร์ตี้กินน้ำ' สู้อากาศร้อนจัดในซินเจียง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวบ้านฮีโร่! ฝ่าน้ำท่วมช่วย 3 ชีวิตติดรถในกว่างซี
ชุมพร ประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมริ่ว
"ผู้การฯ บุรีรัมย์" ยันผู้ต้องสงสัยชาวเขมร "วิน ดา" ผิด 2 ข้อหา มีอาวุธปืน-อยู่ไทยเกินกำหนด ให้การภาคเสธ ตร.สอบเข้มก่อนฝากขัง
3 นิ้วโดนคุกระนาว คดีป่วน "ตชด.ภ.1 ปี 64" จี้ปล่อยตัวทะลุฟ้า “เพนกวิน” โดน 2 ปี ไม่รออาญา เจอปรับอ่วมรวม 3 แสน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​