เมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จ.ตรัง เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวโซนแห่งใหม่ ซึ่งมีต้นเพชรหึงหรือต้นว่านหางช้าง ที่ได้ชื่อว่าเป็นกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังชูช่อออกดอกบานสะพรั่งเกือบ 500 กอ ส่งกลิ่นหอมและเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับศูนย์ขยายพันธุ์พืชได้เป็นอย่างมาก โดยในช่วงนี้เกษตรกรที่เข้าไปเลือกซื้อพันธุ์ไม้และพืชผักสวนครัว ต่างพาครอบครัวไปถ่ายภาพดอกว่านหางช้างกันอย่างคึกคัก ซึ่งในปีนี้ดอกว่านหางช้าง มีก้านดอกที่ยาวตั้งแต่ 1-2 เมตรกว่าร้อยช่อ ดอกสมบูรณ์ แข็งแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีฝูงผึ้งและผีเสื้อสีสันสวยงาม บินมากินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ซึ่งก็ยิ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก และดอกว่านเพชรหึงจะบานไปจนถึงประมาณต้นเดือนกันยายนนี้
ซึ่งการเพาะพันธุ์ต้นว่านเพชรหึงหรือว่านหางช้างจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ก็เพื่อลดการลักลอบนำออกจากป่าอย่างผิดกฎหมาย และเพื่อให้เกษตรกรที่สนใจนำไปปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งบ้านเรือน อาคารสถานที่ หรือนำขายสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยว่านหางช้างใช้เวลาปลูกประมาณ 5 ปีจึงจะเริ่มออกดอก ส่วนราคาขายในตลาดต้นไม้มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท แล้วแต่จำนวนช่อดอกและความสวยงาม
โดยในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงประมาณต้นเดือนกันยายนของทุกปี จะเป็นฤดูกาลของดอกเพชรหึงบาน แต่สำหรับเกษตรกรคนไหนสนใจ ปีนี้กรมส่งเสริมวิชาการเกษตร เปิดจำหน่ายต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้กับเกษตรกรซื้อไปปลูกได้แล้ว ในราคาตั้งแต่ต้นละ 5-70 บาท
ด้านนางวรรณา พรหมบุญทอง ผู้อำนวยการศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จ.ตรังกล่าวว่า ว่านเพชรหึงเป็นกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต้นหนึ่ง ๆ จะมีช่อดอกตั้งแต่ 35-40 ช่อแม้มีบางต้นจะไม่ถึงเพราะขนาดยังเล็ก โดยมีช่อที่ยาวมากและบานอยู่นานประมาณ 2 เดือนกว่า เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน-เดือนกันยายนของทุกปี ส่วนเกษตรกรที่สนใจเพื่อปลูกเป็นไม้ประดับหรือเป็นรายได้ที่ศูนย์ฯก็มีจำหน่ายให้ตามโครงการของกรมส่งเสริมการเกษตรว่าด้วยเงินรายได้จากการดำเนินการส่งเสริมการเกษตร ส่วนราคามีหลายไซส์หลายขนาด และยังมีพันธุ์ไม้อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายชนิด
ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตรัง