“รองโฆษกรัฐบาล” แจงข้อกฎหมายที่ดิน ไม่ใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ปี ถูกยึดคืนจริงหรือไม่

"รองโฆษกรัฐบาล" แจงข้อกฎหมายที่ดิน ไม่ใช้ประโยชน์ที่ดิน 10 ปี ถูกยึดคืนจริงหรือไม่

วันที่ 21 สิงหาคม นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตรการภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ โดยมีประชาชนสอบถามเข้ามาเรื่องกฎหมายการเพิกถอนสิทธิในที่ดินหากเจ้าของปล่อยเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลา 5 ปีติดต่อกัน หรือทอดทิ้งที่ดินไม่ทำประโยชน์ 10 ปีติดต่อกัน ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวอยู่ในมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ใช้บังคับบุคคลใดมีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากบุคคลนั้นทอดทิ้ง ไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่ร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลา ให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะส่วนที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือที่ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่ออธิบดีได้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลได้สั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว ให้ที่ดินนั้นตกเป็นของรัฐ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการใช้กฎหมายนี้ เริ่มปี 2522 กรมที่ดิน แจ้งว่ายังไม่เคยมีคำสั่งศาลให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ตกเป็นของรัฐแต่อย่างใด

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า กระนั้น ประชาชนก็ควรจะปฏิบัติตามกฎหมายถือเป็นดีที่สุด เพื่อให้การใช้ที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ กำหนดว่า การพิจารณาว่าที่ดินแปลงใดมีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้พิจารณาถึงการทำประโยชน์ เพียงแต่ล้อมรั้วหรือเสียภาษีบำรุงท้องที่ แต่ไม่ทำประโยชน์ ย่อมถือว่าเป็นการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า สำหรับที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านหรือในเมือง แม้จะยังไม่ได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยแต่เจ้าของยังมีเจตนาถือเพื่อตนอยู่ ก็ให้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ได้ทำประโยชน์แล้วโดยสภาพ ซึ่งภายในเดือนมกราคมของทุกปีจังหวัดจะสำรวจว่ามีที่ดินแปลงใดบ้างที่มีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลา

เมื่อจังหวัดทำการสำรวจแล้ว จะทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จัดการหรือเร่งรัดให้มีการทำประโยชน์ภายในเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เมื่อครบกำหนดแล้วยังไม่จัดการให้มีการทำประโยชน์ ทางจังหวัดจะตั้งกรรมการเพื่อพิจารณา หากเห็นว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริง ให้จังหวัดทำความเห็นส่งกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวให้ตกเป็นของรัฐต่อไป

“จึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้มีสิทธิในที่ดินได้ตรวจสอบที่ดินและเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิในที่ดินของตนเอง โดยสามารถตรวจสอบรูปแปลงที่ดินผ่าน Application LandsMaps ของกรมที่ดิน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ประชาชน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากที่ดินสูงสุด ด้วยความสมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน และต้องโปร่งใสในการให้สิทธิใช้ที่ดินด้วย ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี” นางสาวรัชดา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมุทรสาคร///พรรครวมไทยสร้างชาติ ประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรค ประจำจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมปักหมุด 3 สมุทร ว่าที่ผู้สมัคร
ด่วน มติ "กองทัพไทย" ร่วม ศบท. ส่งสมช.เห็นชอบ ยกระดับควบคุมอ่าวไทย ปิดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิง ยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา
"กรมการจัดหางาน" จับมือ Outsourcing Service เปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวสถานะไม่ถูกต้องตาม กม. วันแรกยื่นคำขอฯ มากกว่า 65,000 ราย
ผู้ว่าโคราชเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์โลจิสติกส์ 2025” ผลักดันอีสานสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีขนส่งแห่งอนาคต
ฮือฮา! ไม่ธรรมดา “พรรคปวงชนไทย” น้องใหม่มาแรงสโลแกนโดนใจ “สร้างคน สร้างงาน”
"นายกฯอนุทิน" เปิดข้อความ "อันวาร์" ส่งด่วน ยันไม่มีคำพูด "ไทย-กัมพูชา" ตกลงหยุดยิง 4 ทุ่ม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​