“รัฐบาล” เตือน ศึกษาข้อมูลก่อนไปต่างประเทศ หลังถูกส่งกลับถี่

รัฐบาลเตือนคนไทยที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศศึกษาข้อมูล ข้อห้ามให้ดี หลังพบถูกส่งกลับ จับกุมหลายกรณี

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศให้ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศนั้นๆให้ดีก่อนเดินทาง เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาระหว่างเดินทาง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมามีคนไทยถูกส่งตัวกลับประเทศ หรือถูกจับกุมตัวดำเนินคดีในต่างประเทศในหลายกรณีดังนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

1. ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนไทย 2 เที่ยวบินในเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงมีกรณีปลีกย่อยเกี่ยวกับปฏิเสธการเข้าเมืองอีกจำนวนมาก เนื่องจากพิจารณาจากหลักฐานและข้อมูลแล้วเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่คนไทยเหล่านี้น่าจะมุ่งลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ มีโทษทั้งปรับและจำคุก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายไม่ต้องโทษคดีอาญา และได้รับวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่สามภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 หากเดินทางออกจากเกาหลีใต้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จะได้รับการยกเว้นค่าปรับและไม่ถูกบรรจุชื่อในบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้ โดยสามารถไปรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเดินทาง

2.การนำกัญชาออกนอกประเทศเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างมาก เพราะกฎหมายในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน คนไทยที่นำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวติดตัวขณะเดินทางไปยังประเทศที่กฎหมายห้าม อาจถูกลงโทษตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ โดยโทษมีตั้งแต่การปรับเงิน เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไปจนถึงประหารชีวิต จึงขอย้ำเตือนให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและบทลงโทษของแต่ละประเทศอย่างละเอียดก่อนการเดินทาง

3.กรณีที่ประสงค์ไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี กาตาร์ โอมานและบาห์เรน ขอให้ระวังการชักชวนจากนายหน้าหรือกลุ่มแม่แท็กที่มักจะชวนให้ไปทำงานประเภทนวดแผนไทย/สปา โดยอ้างว่าไม่ต้องแสดงหลักฐานหนังสือเดินทางและวีซ่า และสามารถเดินทางเข้าช่องทางปกติที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล หรือมีเงื่อนไขการทำงานหรือให้ผลตอบแทนที่ดีจนผิดปกติ

การเข้าไปทำงานผ่านช่องทางรูปแบบนี้ จะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายใด ๆ และไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและเงินชดเชยได้หากถูกโกงสัญญาจ้างงาน ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกบังคับค้าประเวณี หรือถูกกักบริเวณ เนื่องจากเป็นการลักลอบทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท

“นายกรัฐมนตรีฝากให้เน้นย้ำว่า คนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศขอให้ตรวจสอบเรื่องแนวปฏิบัติและข้อกฎหมายของประเทศนั้นๆให้ดี ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไปทำงาน และขอให้เคารพกฎหมายและกฎระเบียบท้องถิ่น สำหรับผู้ที่จะไปทำงาน ขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานและรายละเอียดสัญญาว่าจ้างให้รอบคอบ จะได้ไม่ถูกหลอกหรือเอาเปรียบ ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ หรือหากประสบปัญหาในต่างประเทศ ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศนั้น ๆ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์หรือเฟซบุค รวมถึง ติดต่อ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข 02 572 8442 ได้ตลอด 24 ชม.” นางสาวรัชดา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สส.กิตติ" ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการงบประมาณในพื้นที่ อบต.ไสไทย
"สุชาติ ชมกลิ่น" รองนายกฯ และ รมว.ทส. สั่งการด่วน ระดมกำลัง ทส. ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอ่างทอง หลังน้ำท่วมฉับพลันคันดินแตก
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบของขวัญ ส่งกำลังใจแก่ผู้พิการ ในงานวันคนพิการ ครั้งที่ 56 ประจำปี 2568
กองทัพอากาศ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
"ซาบีดา" รมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชน ผู้ประสบ​อุทกภัย
เยาวชนฅนลำพูนสืบสานศิลปวัฒนธรรม ร่วมขบวนแห่กระทง งานประเพณีลอยกระทงจังหวัดลำพูน ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​