No data was found

“อนุทิน” เปิดงาน Meet the Press :กัญชา กัญชงฯ

กดติดตาม TOP NEWS

“อนุทิน ชาญวีรกูล” เปิดงาน Meet the Press :กัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแทพย์และเศรษฐกิจ รุกสร้างความเข้าใจแก่สื่อมวลชนไทยและต่างชาติ ให้เล็งเห็นโอกาสของประเทศ พร้อมให้ข้อมูลหลังปลดล็อกไม่ได้สร้างผลกระทบด้านลบต่อสังคม ประเมินมูลค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำโตแตะ 5 หมื่นล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ส.ค. 2565) เวลา 9.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธานในงาน “Meet the Press : กัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” โดยมี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับงานในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ภายใต้คณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายกัญชา-กัญชงทางการแพทย์ของรัฐบาลแก่สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อนำไปสู่การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสามารถนำไปขยายผลการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างกว้างขวาง ซึ่งงานประกอบด้วยหลายกิจกรรม ทั้งการให้ข้อมูลข่าวสารในประเด็นที่อยู่ในความสนใจ อาทิ ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ…. การเสวนาจากผู้แทนกรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) สถาบันกัญชาทางการแพทย์ และกรมอนามัย รวมถึงการตอบข้อซักถามสื่อมวลชน และนำสื่อมวลชนศึกษาดูงานในสถานที่จริง

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวระหว่างการเปิดงานฯ ว่า หลังจากปลดล็อกกัญชา กัญชง ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. เป็นเวลา 2 เดือน นโยบายกัญชาเสรีเพื่อสุขภาพและการแพทย์ไม่ได้ก่อผลกระทบด้านลบต่อสังคมมากอย่างที่มีการกังวล เห็นได้จากจำนวนผู้เข้ารับการรับการรักษาและผู้ป่วยที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์หรือภาวะพิษเฉียบพลันจากกัญชา ณ ห้องฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 6 มิ.ย. – 16 ส.ค. เป็นเวลา 2 เดือนกว่า มีผู้ป่วย 60 ราย หรือเฉลี่ยเพียงวันละ 1 คน ซึ่งไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศเกือบ 70 ล้านคน โดยทั้งหมดเนื่องมาจากการได้รับข้อมูลข่าวสารการใช้กัญชา กัญชงที่ถูกต้องผ่านช่องทางต่าง ๆ ของรัฐ ไปทั่วประเทศ

ทั้งการมีคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ขณะที่แอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ที่รวบรวมข้อมูลการใช้ที่ถูกต้องและการอนุญาตกัญชาไว้ ขณะนี้ก็มีผู้เข้าใช้งานเกือบ 46 ล้านครั้ง มีผู้ลงทะเบียนกว่า 1 ล้านคน ทั้งเพื่อขอจดแจ้งการปลูกในครัวเรือน เพื่อการพาณิชย์ ส่วนที่ใช้เพื่อผลิตภัณฑ์ยา อาหาร เครื่องสำอาง ก็มี อย. ที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ซึ่งเป็นการควบคุมมาตรฐานการใช้กัญชาให้มีความรอบคอบ และควบคุมการใช้กัญชาให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ข้อมูลผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการบำบัดแสดงให้เห็นว่าขณะนี้สิ่งทำร้ายสุขภาพประชาชนคือยาบ้า ไม่ใช่กัญชา ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมาจากผู้เข้ารับการบำบัดทั้งหมดเป็นผู้เสพยาบ้าอยู่ถึงเกือบร้อยละ 80 ขณะที่เป็นผู้เข้ารับการบำบัดจากเสพกัญชาร้อยละ 4.2 และคาดว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจ และในช่วงที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ยังไม่มีผลบังคับ กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกประกาศกระทรวง 4 ฉบับ เพื่อกำกับดูแลการใช้กัญชาให้เหมาะสม ที่หากกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. คาดว่าคณะกรรมาธิการจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายก่อนจะสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศไทย เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์จากกัญชามีมูลค่าสูง ขณะที่ไทยก็มีองค์ความรู้และภูมิปัญหาดั้งเดิมอยู่มาก เช่นกรณีโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีการวิจัยยากัญชาที่จะมาทดแทนยานอนหลับ ที่ปัจจุบันเฉพาะคนไทยเองก็มีปัญหาเรื่องการนอนอยู่ถึง 19 ล้านคน ซึ่งผลการวิจัยนี้จะช่วยลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศและเพิ่มโอกาสการส่งออก เพราะตอนนี้ตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์มูลค่าสูงหลายล้านล้านบาท

ขณะที่มูลค่าตลาดของกัญชา กัญชง ของไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ในขณะนี้มีอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท จากพื้นที่การปลูก 7,500 ไร่ และยังมีที่รอการอนุมัติอีกจำนวนมากเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้การเติบโตทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้าจะเพิ่มไปอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท

สำหรับความเคลื่อนไหวในต่างประเทศเอง ในสัปดาห์หน้า รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ซึ่งได้ประกาศนโยบายที่จะใช้กัญชาทางการแพทย์ในมาเลเซียก็จะมาพบผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขและขอดูงานการดำเนินการของประเทศไทย ขณะที่เยอรมนีก็อยู่ระหว่างกระบวนการออกกฎหมายกัญชาเสรี ซึ่งการที่เยอรมนีเป็นประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้คาดว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปจะดำเนินนโยบายในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะเจาะตลาดไปยังประเทศต่างๆ สร้างส่วนแบ่งในการส่งออกผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง เช่นเดียวกับแคนาดาที่ประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และขณะนี้สร้างรายได้เข้าประเทศได้สูงถึง 2,000 ล้านยูโรต่อปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียนมา ร้อนจัดทำผู้เสียชีวิตกว่าสิบคนทุกวัน
โซเชียลซัดเละ “ส.ศิวรักษ์” ดีเบต 2475 เน้นความเชื่อ ไร้ข้อมูล กล้ายกตัวเองเป็นปัญญาชนสยาม
อินโดนีเซีย เผชิญโคลนถล่มและน้ำท่วมครั้งใหญ่
รัสเซีย ขึ้นบัญชีผู้นำยูเครนเป็นอาชญากรที่ถูกหมายหัว
โซเชียลแซวยับ "พิธา" นำทีมก้าวไกล ร่วมงานสโมสรสันนิบาต ชีวิตสวนทางติ่งส้มหมิ่น จาบจ้วง สถาบันฯต้องนอนคุก
"อัษฎางค์" ย้อนชีวิต "โน้ส อุดม" โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า "พอเพียง" แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน
คึกคัก ชาววังสะพุงสืบสานงานประเพณี แห่ต้นดอกไม้เครื่อง
ผู้ตรวจฯเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงเลือกสว.ส่อขัดรธน. หลัง "ทนายธีรยุทธ" ยื่นขอให้ชงศาลรธน.วินิจฉัย
โซเชียลสวนเดือด "กุ้ง ทัศนีย์" อดีตสส.เพื่อไทย ย้ายซบก้าวไกล โผล่วิจารณ์ระบบขนส่งฯเชียงใหม่
นิด้าโพล สะท้อนคนไทยมองแก้รธน.ไม่ควรยุ่งหมวด1-2 ไม่เชื่อทำการเมืองดีขึ้น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น