"วัคซีนโควิด" เยอรมนีทุ่มทุนพัฒนาวัคซีนแบบพ่นทางจมูกราว 62 ล้านบาท ชี้ สามารถพ่นได้โดยไม่ต้องพึ่งแพทย์ พร้อมหวังว่าประชาชนจะยอมรับวัคซีนมากขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีเตรียมมอบทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 แบบฉีดพ่นทางจมูก ซึ่งมีความคล้ายกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับเด็กในปัจจุบัน โดยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เบ็ตตินา สตาร์ก-วัตซิงเกอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและงานวิจัยของเยอรมนี เผยกับหนังพิมพ์เอาก์สบวร์ก อัลล์เกไมน์ ว่า
โครงการวิจัยนี้ ดำเนินงานโดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมิวนิก ซึ่งได้รับเงินทุนจากกระทรวงฯ เกือบ 1.7 ล้านยูโร (ราว 61.97 ล้านบาท) เพื่อพัฒนา “วัคซีนโควิด” แบบฉีดพ่นเข้าสู่เยื่อบุจมูก ซึ่งจะออกฤทธิ์ในจุดที่เชื้อไวรัสฯ เข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ด้านโจเซฟ โรเซเนกเกอร์ หัวหน้าโครงการวิจัยข้างต้น อธิบายว่า วัคซีนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เข็ม จึงไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่ได้รับ อีกทั้งยังสามารถฉีดพ่นได้ โดยไม่ต้องพึ่งบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ อาจมีส่วนทำให้ผู้ป่วยยอมรับวัคซีนมากขึ้น
จากสถิติทางการเผยว่า ประชากรในเยอรมนีที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 69.4 ล้านคน
- ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ราวร้อยละ 85
- ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เกือบร้อยละ 72
- ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 เกือบร้อยละ 10
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายป้องกันการติดเชื้อฉบับใหม่ของเยอรมนี ซึ่งร่วมออกโดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ทางการอาจกลับมาบังคับใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยบนรถไฟ รวมถึงพื้นที่ในอาคารบางแห่ง ขณะที่สหพันธรัฐของเยอรมนีจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการรอบด้านมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการบังคับตรวจโรคในหลายสถาบันของรัฐ อาทิ โรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็ก
ด้านคาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวขณะนำเสนอร่างกฎหมายฯ ว่าเยอรมนีควรเตรียมรับมือการระบาดของโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวนี้ให้ดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง