ออสเตรเลียพบวัคซีนแบบ ‘แผ่นแปะ’ ตัวใหม่ ต้านโควิดดีกว่าแบบฉีด

ซิดนีย์, 29 ก.ค. (ซินหัว) — คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (UQ) ของออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบ “แผ่นแปะ” ตัวใหม่จะมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ๆ มากกว่าวัคซีนเข็มฉีดแบบดั้งเดิม

การศึกษาในหนูทดลองที่เผยแพร่ในวารสารวัคซีน (Vaccine) เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) พบว่าวัคซีนแบบแผ่นแปะชนิดที่ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความคงสภาพของโปรตีนส่วนหนามของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือเฮกซะโปร (Hexapro) มีประสิทธิภาพต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สูงถึง 11 เท่า เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดเดียวกันที่ฉีดด้วยเข็ม

ดร.คริส แมคมิลแลน เจ้าหน้าที่วิจัยจากสถาบันเคมีและอณูชีววิทยาของมหาวิทยาลัยฯ เผยว่าแผ่นแปะวัคซีนที่ประกอบด้วยเข็มจิ๋วขนาดเล็กความหนาแน่นสูง (microarray patch) จะสามารถส่งวัคซีนเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่อุดมไปด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันได้อย่างแม่นยำ

แผ่นแปะวัคซีนเฮกซะโปร ซึ่งคิดค้นขึ้นโดยมหาวิทยาลัยฯ ร่วมกับแวกซ์แซส (Vaxxas) บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีชีวภาพในเมืองบริสเบน จะส่งวัคซีนทางผิวหนังเข้าสู่ร่างกายผ่านเข็มขนาดเล็กนับพันเข็ม

คณะนักวิจัยได้ทดลองให้วัคซีนเฮกซะโปรทั้งแบบเข็มฉีดหรือแผ่นแปะในหนูทดลอง 8 ตัว ก่อนจะนำเลือดของพวกมันไปทดสอบกับตัวอย่างโรคโควิด-19 หลายตัวอย่าง ซึ่งรวมถึงตัวอย่างสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์อัลฟา เดลตา และโอไมครอน

ผลวิจัยพบว่าวัคซีนแบบแผ่นแปะกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพยับยั้งเชื้อไวรัสฯ ทั้งสายพันธุ์โอไมครอนและเดลตา สูงกว่าวัคซีนแบบเข็มฉีด

ดร. เดวิด มุลเลอร์ หนึ่งในนักวิจัย กล่าวว่าผลวิจัยครั้งนี้เป็นหลักฐานเบื้องต้นว่าวัคซีนแบบแผ่นแปะอาจช่วยต่อต้านการกลายพันธุ์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องยากที่วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะพิสูจน์ได้

มุลเลอร์กล่าวว่าประสิทธิภาพที่ลดลงของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเห็นได้ชัดจากสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งสามารถกลายพันธุ์ได้มากกว่า 30 ตำแหน่งบนโปรตีนหนาม พร้อมเสริมว่าสิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าวัคซีนแบบเข็มที่มีอยู่ยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงจากโรคโควิด-19

อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีแผ่นแปะวัคซีนจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และวัคซีนอื่นๆ ในอนาคต เนื่องจากสามารถขนส่งและใช้งานได้ง่าย รวมทั้งสามารถรักษาความคงตัวที่อุณหภูมิห้องได้นานถึง 30 วัน

ด้านเดวิด โฮอี้ ซีอีโอของแวกซ์แซส กล่าวว่าตอนนี้บริษัทฯ กำลังขยายขนาดการผลิตขณะวัคซีนเข้าสู่การทดลองทางคลินิกขนานใหญ่ ก่อนจะนำเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทฯ จะก่อตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในบริสเบน เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การค้าวัคซีนเชิงพาณิชย์
เครดิต: ซินหัว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​