“วิตามิน E” เบต้าแคโรทีน ไม่ช่วยป้องกันมะเร็ง แต่กลับเสี่ยง

วิตามิน, วิตามิน E, เบต้าแคโรทีน, Beta Carotene, CVD, วิตามินรวม, โรคหัวใจและหลอดเลือด,​โรคมะเร็ง

งานงอก หลังวิจัยเผย "วิตามิน E" เบต้าแคโรทีน ไม่ได้มีส่วนช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงโรคหัวใจหรือโรคมะเร็งแต่อย่างใด แถมยังเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิมอีกด้วย

“วิตามิน E” เบต้าแคโรทีน งานวิจัยเผย ไม่ได้ส่วนช่วยในการป้องกันหรือลดความเสี่ยงโรคมะเร็งและโรคหัวใจแต่อย่างใด แถมอย่างเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมากกว่าเดิมอีกด้วย ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะทำงานพิเศษเพื่อการป้องกันโรค (U.S. Preventive Services Task Force: USPSTF) ได้เผยงานวิจัยสุดช็อกวงการอาหารเสริม โดยระบุว่า การทาน “วิตามินอี” (Vitamin E) และเบต้าแคโรทีน (beta-carotene) นั้น ไม่สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease: CVD) หรือโรคมะเร็งได้  เนื่องจาก ไม่พบหลักฐานที่เพียงพอ ทั้งนี้ คำแถลงการณ์ดังกล่าวได้ตีพิมพ์ใน JAMA

 

 

 

วิตามิน, วิตามิน E, เบต้าแคโรทีน, Beta Carotene, CVD, วิตามินรวม, โรคหัวใจและหลอดเลือด,​โรคมะเร็ง

 

 

 

จากงานวิจัยในปัจจุบันนั้น ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกได้ว่าอาหารเสริมวิตามินรวม (multivitamin supplements) และอาหารเสริมที่มีสารอาหารเดี่ยวหรือสองอย่าง จะสามารถป้องกันการเกิด CVD และโรคมะเร็งได้แต่อย่างใด และที่พีคยิ่งกว่า คือ วิตามินบางตัว ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมากกว่าเดิมอีกด้วย ได้แก่

 

 

“วิตามิน E” (Vitamin E)

  • USPSTF วิเคราะห์ข้อมูลแบบ randomized clinical trials ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลอง 107,772 คน
  • จากการศึกษาผลลัพธ์พบว่า วิตามินดังกล่าว ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด  แน่นอนว่า ไม่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็งเช่นกัน
  • นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสต่อการเกิดภาวะเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic Stroke) อีกด้วย

 

 

 

วิตามิน, วิตามิน E, เบต้าแคโรทีน, Beta Carotene, CVD, วิตามินรวม, โรคหัวใจและหลอดเลือด,​โรคมะเร็ง

เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)

  • USPSTF วิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองเบต้าแคโรทีน และ 1 การทดลองที่ผู้ใช้ได้รับวิตามิน เอ (Vitamin A) ร่วมด้วย สรุปได้ว่า เบต้าแคโรทีน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้น

 

 

 

สรุป

  • เพื่อเป็นการป้องกันโรคและลดความเสี่ยง ควรเลือกทานอาหารอย่างพอเหมาะ
  • เน้นเลือกอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้, ผัก, ธัญพืช, นมปราศจากไขมัน และไขมันต่ำ
  • และอาหารทะเล ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคมะเร็ง

 

 

 

วิตามิน, วิตามิน E, เบต้าแคโรทีน, Beta Carotene, CVD, วิตามินรวม, โรคหัวใจและหลอดเลือด,​โรคมะเร็ง

 

 

 

ข้อมูล : cancertherapyadvisor และ medicinematters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เริ่มแล้วที่แรก! จ.ลำพูน กิจกรรมขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า “ศิลปินสร้างศิลปิน”
“พีระพันธุ์” อุบมติรทสช. ขอคุย “แพทองธาร” เรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ผุดไอเดีย “ชัยเกษม” นั่งนายกฯแทน
GLO จัด "Kid Dee Roadshow" เสริมเกราะใจไซเบอร์ให้เยาวชนใต้ รู้เท่าทันภัยพนันออนไลน์
“ภราดร” เข้ากราบลา “วันนอร์” หลังลาออก รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ขอบคุณไว้วางใจ นับเป็นเกียรติได้ทำหน้าที่
"วราวุธ" แถลงชาติไทยพัฒนา ประชุม สส.-กก.บห.ไม่ถอนตัว รอคุยนายกฯเพิ่ม เกิดอะไรขึ้น
"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย
GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ปี 5 หน่วยที่ 3 จุดประกายรอยยิ้ม สร้างโอกาสเข้าถึงทันตกรรมฟรีให้ชาวชลบุรี
"แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยชาติ ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน
“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น