No data was found

สธ.แจงปมวัคซีนเต็มแขน เป็นปรกติ ของเหลือดีกว่าขาด

กดติดตาม TOP NEWS

สธ. แจงวัคซีนเต็มแขนถูกวิจารณ์ใกล้หมดอายุ ชี้ต้องสั่งจองให้พอกับความต้องการเป็นความมั่นคงด้านสุขภาพ เป็นปรกติทุกประเทศเหลือดีกว่าขาด เผยขณะนี้มีเก็บอยู่ในคลังส่วนกลาง 29 ล้านโดส และคลังส่วนภูมิภาค 13 ล้านโดส ยกเคสญี่ปุ่นทำลายกว่า 100ล้านโดส

วันนี้ (23 มิถุนายน 2565) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตเรื่อง “วัคซีนเต็มแขน” แต่เป็นวัคซีนโควิด 19 เต็มทุกสถานีอนามัย และกำลังจะหมดอายุ เพราะสั่งเข้าแบบไม่มีแผนและใช้งานไม่ทัน ว่า วัคซีนเป็นเรื่องของความมั่นคงทางด้านสุขภาพของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศที่จะมีวัคซีนเหลือ ไม่ใช่วัคซีนขาด ส่วนเรื่องของการสั่งจองและซื้อวัคซีนโควิด 19 เข้ามาเพื่อปกป้องประชากรทั่วประเทศและเรื่องหมดอายุนั้น ขอชี้แจงทำความเข้าใจ ว่า วัคซีนโควิด 19 แต่ละชนิดจะต้องมีการสั่งจองล่วงหน้าเป็นปีหรือหลายเดือน เนื่องจากกระบวนการผลิตวัคซีนมีความซับซ้อน และใช้เวลานาน เมื่อผลิตออกมาแล้วจะขอขึ้นทะเบียน อย.เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งกำหนดวันหมดอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผลิต หากภายหลังตรวจสอบคุณภาพและประเมินผลแล้วสามารถที่จะนำมาฉีดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผล อย.ก็จะอนุมัติให้ขยายอายุวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชนได้มากที่สุด

ข่าวที่น่าสนใจ

“เป็นเรื่องพื้นฐานความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ การจองวัคซีนต้องให้มีจำนวนเพียงพอต่อการป้องกันโรคและรับมือการระบาด ซึ่งในต่างประเทศก็มีการจองวัคซีนไว้ตามความต้องการสูงสุดสำหรับประชาชนทุกคน ซึ่งต้องมีเข็มกระตุ้นด้วย และมีวัคซีนหมดอายุ เช่น ญี่ปุ่น มีข่าวบริจาคและทำลายวัคซีนโควิดมากกว่า 100 ล้านโดส ในหลายเดือนที่ผ่านมา” นพ.รุ่งเรืองกล่าว

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนและการคาดประมาณการฉีดวัคซีน มีการดำเนินการล่วงหน้า จัดหาและจัดส่งวัคซีนไปให้อย่างเพียงพอ โดยวัคซีนเข็มกระตุ้นจากฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขคาดว่า ยังมีผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดเข็มกระตุ้นอีกประมาณ 24 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่ได้จัดส่งไปให้กับพื้นที่และหน่วยบริการดำเนินการ แต่ช่วงนี้ที่มีการฉีดวัคซีนได้น้อย เนื่องจากสถานการณ์การระบาดดีขึ้นอย่างมาก และประชาชนยังไม่มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น

“การจัดหาวัคซีนไว้เหลือป็นแนวทางการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล และหลักความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนเหลืออยู่ที่คลังส่วนกลาง 29 ล้านโดส และคลังส่วนภูมิภาค 13 ล้านโดส การดำเนินการตามนโยบาย คือ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของจึงเป็นที่มาของการเร่งรัดประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้ารับเข็มกระตุ้นโดย ๆ จัดส่งวัคซีนไปไว้ที่ รพ.สต. เพื่อให้บริการประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด” นพ.รุ่งเรืองกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เครื่องบินขนส่งโบอิ้งลงจอดล้อไม่กาง ครูดทางวิ่งไฟลุก (คลิป)
มาเลเซีย เล็งใช้ การทูตอุรังอุตัง กระชับมิตรคู่ค้าน้ำมันปาล์ม
กกต.ซักซ้อมเลือกสว.สัปดาห์หน้า มั่นใจกม.คุมเข้มช่วยสกัดฮั้ว
แฉยับ "ณัฐชา" สส.ก้าวไกล แต่งตั้ง "ไมค์ ภาณุพงศ์ " นั่งที่ปรึกษาคกก.สวัสดิการสังคม แค่ 5 เดือนก่อนหนีหมายจับคดี 112
เมืองพัทยา ผนึกกำลังกรุงเทพมหานคร ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ชาวบ้านแห่ทอดแหหวังได้ปลาจากน้ำหลากหลังฝนแรกเทไป 2 วัน เพื่อเลี้ยงครอบครัวสู้วิกฤติภัยแล้ง ตั้งแต่เช้ายันบ่ายได้ปลาไม่ถึง 2กิโล
"ประเสริฐ" สั่งตรวจสอบโครงการ "ดีอี" หลัง "ฐากร" ปูดส่อส่งกลิ่น ลั่นไม่ยอมให้มีทุจริตเกิดขึ้นแน่
จีน ปรากฏการณ์ ‘น้ำตกเมฆ’ ไหลอาบขุนเขาในฉงชิ่ง
จีน ทึ่ง! โรงงานรถอีวี Xiaomi ใช้หุ่นยนต์กว่า 700 ตัว ในการผลิต
จีน เฉิงตูเปิดตัว ‘รถไฟขบวนแพนด้า’ หนุนท่องเที่ยวจีน-ลาว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น