No data was found

แกะญัตติฝ่ายค้าน ซักฟอกนายกฯพ่วง ๑๐ รมต.

กดติดตาม TOP NEWS

เหมาเข่ง ๓ ป. ยกพวงรัฐมนตรีเรือแป๊ะ  สุทินยอมรับไร้หมัดน็อกเต็มที่ก็แค่ช้ำ เหลาข้อหาแต่ละคนหนักเบาไม่เท่ากัน  รอบนี้บิ๊กตู่โดนเรื่องกู้หวานเงินประชานิยม  “ป้อม-ป๊อก”แค่เตะตัดขาโหนเรื่องเก่า  หนูหนักหน่อยโดนสอยเรื่อง “งูเห่า” พ่วงเรื่องกัญชา ศักดิ์สยามโดนแข่งขันไม่เป็นธรรม  จุรินทร์จุกอกโดนเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน  สันติถูกจองเวรเรื่องท่อน้ำ ชัยวุฒิหนาวเจอเรื่องจับเด็กแถมมีเอี่ยวผิดศีลธรรมร้ายแรง

หลังจากรอมานาน ล่าสุดพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ ม. ๑๕๑ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวานนี้ ๑๕ มิ.ย. ๒๕๖๕  ชลน่าน ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติต่อชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ทั้งนี้ในส่วนของรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้  นับรวมนายกฯด้วยก็เป็น ๑๑ คน  ประกอบด้วย ก๊วน ๓ ป. บูรพาพยัคฆ์  ที่เที่ยวนี้มากันครบ  “ป้อม-ป็อก-ตู่”  ไล่ตั้งแต่ ๑.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม  ๒. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ๓. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  พรรคพลังประชารัฐ ๓ คน ประกอบด้วย ๑. “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒.สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ๓. “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  พรรคประชาธิปัตย์ ๓ คน คือ ๑. “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ๒. “เสี่ยไก่” จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  และ ๓.นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย  พรรคภูมิใจไทย ๒ คน คือ ๑.“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ๒. “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

งานนี้จะเห็นได้ชัดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านเน้นอภิปรายแบบเหมาเข่ง  หลังจากบวกลบคูณหารดูแล้วคงจนปัญญาที่จะล้มรัฐบาลคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ได้  แรกเริ่มตั้งใจจะยิงลูกโดดเน้นไปที่กัปตันเรือแป๊ะอย่างบิ๊กตู่คนเดียว อาจพ่วงรัฐมนตรีที่มีข้อหาหนักอีกไม่กี่คนรวมแล้วไม่เกิน ๖ คน  แต่หลังจากตกม้าตายพ่ายศึกแรกในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๖ วาระแรก  ด้วยคะแนน ๒๗๘ ต่อ ๑๙๔  พรรคเพื่อไทยก็คงนกรู้ทักษิณก็เลยสั่งเปลี่ยนเกมส์  เพราะไม่อยากให้ศึกซักฟอกครั้งสุดท้ายของปีนี้และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้โอกาสชำแหละพล.อ.ประยุทธ์สับรัฐบาลต้องเสียหายดายของ  เที่ยวนี้จึงต้องอภิปรายแบบเหมาเข่งเน้นด่าแบบยกพวง  หมัดน็อคคงไม่มีเต็มที่ได้แค่ช้ำเหมือนอย่างที่ “เฮียทิน” สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านออกมายอมรับจนปัญญาล้มบิ๊กตู่เต็มที่คงได้แค่ด่าเอามันส์ฝากรอยแผลป้ายมลทินเอาไว้ให้มัวหมอง  ไล่เรียงแกะรอยเหตุผลซักฟอกแต่ละคนก็เบาหวิว  เริ่มจากบิ๊กตู่งานนี้ฝ่ายค้านพุ่งเป้าเหมารวมความผิดพลาดในการบริหารประเทศ ๓ ปีเศษที่ผ่านมา  “ ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน เป็นต้นตอที่ทำให้ปัญหาที่มีอยู่มีความซับซ้อน ขยายวงกว้างและรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง อาชญากรรม ยาเสพติด การทุจริตคอรัปชั่น ประชาชนในชาติแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าเดิม …..การใช้จ่ายงบประมาณมิได้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ก่อหนี้เพื่อแสวงหาคะแนนนิยมทางการเมือง โดยไม่สนใจต่อภาระหนี้สาธารณะและหนี้สินต่อหัวของประชาชน ใช้งบประมาณเพื่อการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ไม่มีความจำเป็นต่อภารกิจของประเทศในภาวะที่ประเทศมีปัญหาด้านเศรษฐกิจที่รุนแรง”

หลักๆของบิ๊กตู่เที่ยวนี้ก็คงโดนเรื่องการกู้เงินมหาศาลหว่านใช้ไปกับโครงการประชานิยม สารพัดเรื่องหลากหลายโครงการของรัฐบาลเพื่อพยุงความนิยม  อาทิ คนละครึ่ง ไทยเที่ยวไทย เราเที่ยวด้วยกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือสินค้าเกษตร ค่าน้ำค่าไฟ   ฯลฯ รวมถึงการอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธที่ไม่ว่ายุคไหนสมัยใดพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องถูกโจมตีเรื่องนี้อยู่แล้ว ด้านพี่ใหญ่อย่างบิ๊กป้อม  หลักใหญ่ใจความก็คงถูกอภิปรายในเรื่อง “บริวารเป็นพิษ” เพราะเป็นคนมีลูกน้องมาก เที่ยวนี้จึงโดนเรื่องคนใกล้ชิดหาผลประโยชน์  ที่คงไม่พ้นเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ตั๋วช้าง โรฮินยา ฯลฯ   ขณะที่ของตัวเองจะมีที่โดนฝ่ายค้านเอามาวิจารณ์บ้างก็คงเรื่องของการหลีกเลี่ยงกฎหมายทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย  เช่นเดียวกับบิ๊กป๊อกที่โดนเรื่อง “การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตภายในกระทรวงมหาดไทย  รู้ว่ามีการทุจริตกลับไม่ระงับ ยับยั้ง หนำซ้ำยังรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต ทำให้ระบบราชการและประเทศชาติได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง”   กรณีป๋าป้อมกับบิ๊กป็อกน่าจะหวังดิสเครดิตให้ด่างพร้อยมากกว่า เพราะสองคนนี้เรื่อง “ใบเสร็จ” คงหายาก

ด้าน ๓ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ แรกเริ่มเดิมทีคิดว่ามีแค่ชัยวุฒิกับสันติเท่านั้นที่โดนขึ้นเขียง แต่ไปๆมาๆสุชาติก็โดนหางเลขจาก “ผู้มีบารมีนอกฝ่ายค้าน ” ที่เดาได้ไม่ยากว่าเสี่ยเฮ้งเคยงัดกับใครมาก่อน  รอบนี้คู่อรินักการเมืองใหญ่คนดัง เลยจัดหนักจัดเต็ม  แปลกแต่จริงที่ ๓ รายชื่อรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐล้วนเป็นคนที่เคยมีเรื่อง “เหยียบตาปลา” หรือ “เกาเหลา” กับขาใหญ่นักเลงการเมืองคนนี้มาก่อนทั้งสิ้น  สันติเคยขบเหลี่ยมเรื่องแย่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  ชัยวุฒิเคยฟัดกันเรื่องชักเข้าชักออกจะอยู่หรือไป ส่วนสุชาติก็คงแค้นฝังหุ่นสมัยอยู่ในพรรคกันมาเก่าก่อน  แถมยังมาขบเหลี่ยมกันเรื่องช่วงชิงพรรคเล็กเอาใจส.ส.ตัวน้อยในช่วงที่ผ่านมา  รอบนี้ทั้ง ๓ คน คือ “ชัยวุฒิ -สันติ-สุชาติ” จึงถูกสอยยกพวงให้ขึ้นเขียงทั้งหมด  ไม่รู้เกี่ยวข้องว่าเคยเป็นโจทย์แค้นฝังหุ่นกันมาก่อนไหม  แถมแต่ละคนก็ถูกฝ่ายค้านลับอีโต้รอไว้แล้ว ขณะที่ฝ่าย “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ออกมาขู่ฟ่อ    “ชี้แจงให้ดีๆนะ พลังประชารัฐหนักทุกคน ยกเว้นพี่ป้อม ”   ไล่เรียงกันไปเลยสำหรับเสี่ยโอ๋ ชัยวุฒิ  ถูกข้อครหาปล่อยปละละเลยให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทำลายระบบเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง สนใจเอาผิดแต่เฉพาะกับกลุ่มบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวาร และพวกพ้อง  นอกจากนี้ยังมีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง  ประเด็นของเสี่ยโอ๋นอกเหนือจากการกวาดจับพวกด่าหยาบล้มล้างสถาบัน พวกเกรียนคีย์บอร์ด พวกนักรบห้องแอร์ในโลกออนไลน์แล้ว ยังมีเรื่องการประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงามอีก  ไม่รู้งานนี้ฝ่ายค้านไปได้ข้อมูลเด็ด เรื่องลับๆคาวๆอะไร ถึงเอามาจั่วหัวเรียกน้ำย่อยกันแบบนี้  ที่ล่าสุดเจ้าตัวยืนกรานแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน ไม่กังวลแถมเย้ยซ้ำฝ่ายค้าน เปิดตัวเป็นหนังบู๊แต่ตอนจบอาจกลายเป็นเรื่องเศร้า

 ด้านสันติรอบนี้โดนสับแหลกเรื่องปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหน่วยงานที่กำกับดูแล เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน ไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดูทรงตามนี้ก็คงไม่มีเรื่องอะไรนอกจากการประมูลเรื่องท่อส่งน้ำในโครงการอีอีซี ที่ถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย  ที่งานนี้กลุ่ม ๑๖ ของพิเชษฐ สถิรชวาล และก๊วนพรรคเล็ก รวมถึงพรรคเศรษฐกิจไทยของผู้กองน่าจะจองกฐินเตรียมลับมีดไว้แล้ว   ส่วนเสี่ยเฮ้ง สุชาติ รอบนี้เหมือนจะหลุดแต่ท้ายสุดถูกยัดชื่อติดบัญชีมาด้วย  ที่เจ้าตัวรู้ชัดว่าใครเป็น “ไอ้โม่ง” ที่สอดไส้ชื่อให้ตัวเองถูกขึ้นเขียง “อย่างที่สื่อมวลชนได้เห็น ก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อผม แต่มีการเพิ่มญัตติมาคนสุดท้าย ก็อาจจะมีคนที่มีอิทธิพลที่อยู่นอกพรรคฝ่ายค้านก็ได้”   ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทั้งชีวิต  มวยเฮฟวี่เวทอย่างสุชาติไม่เคยกลัวรอบนี้ประกาศขอชนกันในสภา เพราะดูข้อหาแล้วจุ๋มจิ๋มเหมือนก็อปปี้ของคนอื่นมาวางตามคำขอของเพื่อนฝูง  “ปล่อยปะละเลยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายใหญ่ในการใช้ประโยชน์จากแรงงานโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

ฝากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์รอบนี้โดนไป ๓ คน  โดย จุรินทร์  ถูกตั้งแง่ “ ล้มเหลวและไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงในกำกับดูแล ปล่อยให้ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคสูงขึ้นจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน จนส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้า”  ไม่แคล้วโดนเรื่องปุ๋ยแพง หมูแพง ไก่แพง ข้าวของแพง น้ำมันแพง สารพัดสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา    ส่วนนิพนธ์คนโตเมืองสงขลา รอบนี้ก็ถูกซักฟอกด้วยข้อหา “สนับสนุนให้มีการทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานในกำกับดูแล ไม่ดำเนินการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง และป้องกันการทุจริตจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง”  ที่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเก่าสมัยเป็นนายกฯอบจ.สขลา  ที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้อบจ.สงขลาชำระเงินให้กับเอกชนที่ชนะการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง ๒ คันพร้อมดอกเบี้ย  แต่นิพนธ์ไม่ยอมจ่ายเพราะตรวจสอบแล้วพบว่ามีการฮั้วกันระหว่างเอกชนที่ชนะการประมูลกับบริษัทคู่เทียบทำให้รัฐเสียประโยชน์  ด้านเสี่ยไก่ จุติ โดนกรณี “ ปล่อยให้ประชาชนขาดไร้ซึ่งที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ” เรียกว่าเบาหวิวเพราะบริหารงานมาไม่มีอะไรเสียหาย อาจจะมีเรื่องที่ไม่จริงจังในเรื่องการเอาผิดคนใหญ่ในพรรคของตัวเองที่ล่วงละเมิดทางเพศ และไม่ยอมช่วยเหยื่อที่ถูกคุกคาม เพราะคนทำผิดเป็นพวกเป็นฝ่ายตัวเองแต่เรื่องนี้ก็ดูเบามาก หรือไม่งั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่พม.เตรียมออกพ.ร.บ.การดำเนินกิจการขององค์การไม่แสวงหากำไร หรือพ.ร.บ.เอ็นจีโอ ที่ฝ่ายเห็นต่างมองว่าเป็นการรอนสิทธิภาคประชาสังคม แต่ก็ไม่น่าหนักหนาอะไรถึงขั้นต้องซักฟอก ทำไปทำมาหลายคนเลยคิดว่าเสี่ยไก่อาจกลายเป็นมวยแทน ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เจ้าพ่อสามอ่าว ที่แรกเริ่มเดิมทีมีชื่อติดโผซักฟอกในฐานะเลขาฯพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์  แต่ไม่รู้ไปใช้กำลังภายในอย่างไรไปวิ่งกับพรรคเพื่อไทยทางไหนที่สุดชื่อเฉลิมชัย หลุดโผและเป็นเสี่ยไก่มาแทน

ปิดท้ายที่พรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนู  รอบ ๔ เทอม ๒ เที่ยวนี้มาเต็มๆ เพราะเป็นคู่อริโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย อ่านญัตติที่เขียนมาอย่างชัด “ มีพฤติกรรมทำลายระบบการเมืองด้วยการรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนการใช้เงินและผลประโยชน์เพื่อมุ่งดึง ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดกลุ่มการเมืองของตนโดยไม่คำนึงถึงหลักการประชาธิปไตย และคุณธรรมทางการเมือง ทำให้ระบบการเมืองถอยหลังไปสู่ยุคการใช้เงินและผลประโยชน์สร้างฐานอำนาจทางการเมือง อันถือเป็นธุรกิจการเมืองที่ทำลายอุดมการณ์ประชาธิปไตย เปลี่ยนจากระบบคุณธรรมนำการเมืองเป็นใช้เงินและผลประโยชน์นำการเมือง …..ใช้งบประมาณแผ่นดินเกินความจำเป็นและไม่เกิดประโยชน์ เกิดความเสียหายแก่งบประมาณของประเทศ มุ่งเอื้อประโยชน์ให้เพื่อนพ้องบริวาร แสวงหาประโยชน์จากตำแหน่งและหน้าที่ของตน”  งานนี้เรียกว่าเละตุ้มเป๊ะ รับรองว่าเรื่อง “งูเห่า-งูฝาก”  ไม่ต้องรอถอนแค้นกันนานถึง ๑๐ ปี  เวทีซักฟอกรอบนี้แหละคงซัดกันแหลก  ล่าสุดโหมโรงไปศรีสะเกษ ๑๘ มิ.ย.นี้  ชูสโลแกน “ไล่หนูตีงูเห่า”  อุ๊งอิ๊งนำทัพเองมีเต้นปากหวานเป็นลูกหาบ นำร่องไปกระทืบคนแปรพักตร์ถึงถิ่นให้ราบคาบ  ก่อนจะกลับมาปิดจ็อบเหยียบซ้ำในสภา  เรื่องกัญชาก็คงเอามาขยี้เสี่ยหนูเพิ่มปมด่าได้อีกหลายประเด็นเช่นกัน    ด้านเสี่ยโอ๋น้องรักพี่เน ณ บุรีรัมย์  รอบนี้น่าจะอ่วมอรทัยเพราะโดนไปหลายดอก  ข้อหาที่ชงมาก็หนักๆทั้งนั้น  “ดำเนินนโยบายโดยไม่คำนึงถึง ความคุ้มค่าในด้านการใช้จ่ายงบประมาณ ใช้งบประมาณโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและประโยชน์สาธารณะ ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสและงบประมาณมหาศาล ใช้ตำแหน่งกระทำการโดยทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงคมนาคม ….ไม่ดูแลให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อนและกระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์”  จับยามสามตาของศักดิ์สยาม  หนีไม่พ้นเรื่องที่ดินเขากระโดง เรื่องประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีเขียว  สารพัดเรื่องผลประโยชน์มหาศาลในกระทรวงหูกวาง

ย้อนอดีตเทอม ๒  บิ๊กตู่และครม.เรือแป๊ะ เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมา ๓ ครั้ง  ครั้งแรกเมื่อ ๒๘ ก.พ. ๒๕๖๓  พล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนไว้วางใจ ๒๗๒ เสียง ไม่ไว้วางใจ ๔๙ เสียง งดออกเสียง ๒ เสียง   ครั้งที่ ๒  เมื่อ ๒๐ ก.พ.๒๕๖๔  พล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนไว้วางใจ ๒๗๒ เสียง ไม่ไว้วางใจ ๒๐๖ เสียง งดออกเสียง ๓ เสียง  ครั้งที่ ๓ เมื่่อ ๔ ก.ย.๒๕๖๔  พล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนไว้วางใจ ๒๖๔ ไม่ไว้วางใจ ๒๐๘ งดออกเสียง ๓ เสียง   จากนี้ก็ต้องมาลุ้นว่าซักฟอกรอบนี้จะมีอะไรตื่นเต้นให้ได้เห็นกันบ้าง  ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกแล้วบิ๊กตู่หมดสิทธิ์ยุบสภา ถ้าแพ้โหวตเวทีนี้ต้องลาออกกลับบ้านคนเดียวแบบเหงาๆ  ฝ่ายค้านคอกทักษิณโหมโรงกันสุดๆ แต่ของจริงไม่รู้จะมีน้ำยามากน้อยขนาดไหน คราวก่อนหน้าแตกแผลยังไม่หาย  รอบนี้ป่าวกระกาศ “เด็ดหัวสอยนั่งร้าน” เอาจริงจะกลายเป็นซักฟอกแบบขำๆเหมือนนั่งอ่านขายหัวเราะในห้องแอร์ เสียเวลาทำมาหากิน  คาดอภิปราย ๑๘ -๒๒ ก.ค. วันจริงเมื่อไหร่อีกไม่นานคงได้รู้กัน  รอบ ๔ ซักฟอกเที่ยวสุดท้ายของเรือแป๊ะไม่ห่วงประยุทธ์เลย กังวลฝ่ายค้านเสียมากกว่า เกรงว่าจะท่าดีทีเหลวเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

//////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รมต.เฮ้ง ขอทำงานให้ประเทศชาติ ไม่ยึดติด จาก รมว.มาเป็น รมช.
เมืองทองแทบแตก ชาวบ้านนับหมื่นแห่เข้าแถว กินทุเรียนฟรี 10 ตัน
"ดร.อานนท์" จวกหนัก "โน้ส อุดม" ปัญญาตื้นเขิน พูดเสียดสีศก.พอเพียง
"ต๊อบ วุฒินันท์" ซัดจุกอก "โน้ส อุดม" แขวะพ่อสอนรู้จักใช้ชีวิตพอเพียง
"อธิบดีอัยการ" พร้อมช่วยญาติเหยื่อ "ตกท่อเสียชีวิต" ชี้โทษหนักคุก 10 ปี
ชุมชนคุณธรรมฯ วัดท่าขนุน กาญจนบุรี ต้นแบบ“เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี ๒๕๖๖
"ธนดล" บุกสนามกอล์ฟไมด้า เมืองกาญฯ เตรียมยึดที่ ส.ป.ก. คืน 139 ไร่
เปิดใจ คนขับรถสองแถว-เรือเช่า แจงปมดราม่า หลังยูทูปเบอร์ญี่ปุ่น ลงคลิปประสบการณ์สุดแย่ที่ไทย
หนุ่มหัวร้อนยิงคนตาย ปมโมโหจอดรถขวางหน้าบ้าน ก่อนหนีหาย 34 ปี สอบสวนกลางตามรวบ
34 ปีไม่เคยเจอ พายุฤดูร้อนกระหน่ำรพ.อุตรดิตถ์ พาคนไข้อพยพวุ่น เครื่องมือแพทย์เสียหายเพียบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น