ทักษิณรุก ประยุทธ์ขยับ

ปูทางการเมืองในอนาคต หวนดึงข้าเก่าเอา “เต้น” มาชูโรงเป็นจำอวดหน้าม่านดึงคนดู “อุ๊งอิ๊ง” ประเคนเก้าอี้ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยให้เป็นรางวัล ประเดิมงานแรกบุกศรีสระเกษ  “ไล่หนู ตีงูเห่า”  ด้านประยุทธ์ขยับปิดห้องคุยหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล  เล็งคว่ำสูตร ๑๐๐ หาร   เดินหน้าใช้สูตร ๕๐๐ แทน  ดึงพรรคเล็กบล็อกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ก่อนถึงวันโหวตวาระ ๒ และ ๓ สัปดาห์หน้า  

การเมืองนับถอยหลังปีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไป เริ่มคึกคักขึ้นมาตามลำดับ ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้านต่างก็ต้องเตรียมตัวช่วงชิงความได้เปรียบเพื่อเข้าสู่การมีอำนาจ  ล่าสุดพรรคเพื่อไทยของนักโทษหนีคดีคนแดนไกลที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ดูเหมือนจะลุกขึ้นมาปรับลุคพรรคปรับปรุงโครงสร้างภายในขนานใหญ่มากกว่าใครเพื่อน  โดยเฉพาะเมื่อนายห้างใหญ่ตัดสินใจส่งลูกสาวคนสุดท้อง อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลงเล่นการเมือง ก่อนทยอยขยับศักดิ์เรื่อยมา ไล่ตั้งแต่ประธานที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมก่อนขยับมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และอนาคตไม่แคล้วต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยหมายเลข ๑ เป็นคนแรกอย่างแน่นนอน   แต่ถึงแม้จะเปิดตัวอุ๊งอิ๊งมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น แต่ดูเหมือนตลอด ๗ เดือนเศษที่ผ่านมาเวลาไปต่างจังหวัดดูเหมือนกระแสตอบรับยังไม่คึกคักคึกครื้นเท่าที่ควร  กระแสความนิยมชมชอบของชาวบ้านในตัวอุ๊งอิ๊งยังไม่ดีเท่าที่ควร

เอาง่ายๆถ้าเทียบกับ “เสี่ยทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยแล้วไปสมัครผู้ว่าฯกทม.  ก็ต้องบอกว่าผู้คนที่มารุมล้อมมาชื่นชมอุ๊งอิ๊งยัง “หลวม” ยังไม่แน่นใกล้เคียงกับ “ชัชชาติ” ล่าสุดไม่รู้ทักษิณกลัวลูกสาวจะเป๊กออกลูกฝืดหรืออย่างไร จึงต้องส่งคนกลับไปง้อไปตามตัวข้าเก่าเต่าเลี้ยงอย่าง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง กลับมาช่วยงานพรรคมาเป็นแบ็กอัพให้กับลูกสาว แถมงานนี้อวยยศกันเต็มที่ถึงขนาดประเคนตำแหน่ง  “ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย” ให้ทั่นเต้นได้มีหน้ามีตาในพรรค ใหญ่โตชนิดไม่เป็นสองรองใคร ขนาดเปิดตัวว่าจะกลับมา เพจพรรคเพื่อไทยยังโหมโรงยกหางกันเต็มที่ด้วยแบนเนอร์คำพูดสารพัดครั้งที่เจ้าตัวเคยพ่นออกมา   “ตลอด ๒๐  ปีที่ครอบครัวเราได้ก่อร่างขึ้นบนเส้นทางการเมือง  เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย หลายคนยังอยู่ หลายคนจากไป และบางครั้ง หลายคนกลับมา”  หรือ  “  เขาคนนี้ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข   เขาคนนี้ ร่วมต่อสู้บนถนนประชาธิปไตยเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชน  เขาคนนี้ ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ที่ว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนเท่ากัน ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ ชวนทุกคนต้อนรับ เขา กลับบ้าน”

ภารกิจหลักที่พรรคเพื่อไทยมอบหมายให้ณัฐวุฒิในคราวนี้ก็คงหนีไม่พ้นการใช้ “ปาก” ทำงานที่เป็นงานถนัดสุดของณัฐวุฒิ  โดยจะรับผิดชอบเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันนำคาราวานเพื่อไทยเดินสายทุกจังหวัดทั่วประเทศ   ด้านหนึ่งก็ดึงชาวบ้านหน้าใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย   อีกด้านก็จะไปปลุกคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดขอคะแนนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  (นปช.) ให้ลุกขึ้นมาสนับสนุนอุ๊งอิ๊งหนุนลูกสาวนายห้างให้เป็นนายกฯตามใบสั่งกดปุ่มจากดูไบ   ณัฐวุฒิเตรียมประเดิมบทบาทผอ.โครงการครอบครัวเพื่อไทยครั้งแรกที่ จ. ศรีสะเกษ ๑๘  มิ.ย.นี้  กำหนดธีมภายใต้ชื่องาน “ครอบครัวเพื่อไทยบุกศรีสะเกษ ไล่หนู ตีงูเห่า” ย้อนเกล็ดพรรคภูมิใจไทยที่มาตกปลาในบ่อเพื่อน วาง “งูเห่า-งูฝาก” ไว้ในพรรคช่วงโหวตอภิปรายงบประมาณปี ๒๕๖๖   โดยจะจัดกิจกรรมพบปะพี่น้องประชาชน รวมทั้งเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ใน ๓ อำเภอ คือ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล  และ อ.ขุนหาญ ซึ่งเป็นพื้นที่ของส.ส.งูเห่า ๓  คน  ที่โหวตสวนมติพรรคไปล่าสุด อย่าง จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ , ธีระ ไตรสรณกุล และ ผ่องศรี แซ่จึง เรียกว่าแก้เผ็ดแก้ลำส.ส.แหกมติพรรคเอาคืนกันทันที 

“เราเสียเวลามามากกับเผด็จการ เราต้องระดมทุกคนที่มีจิตใจประชาธิปไตย รักในประชาธิปไตยกลับมาอยู่รวมกัน ณ ที่แห่งนี้  เราล้าหลังไปมากเพราะเผด็จการ ถ้าดูประเทศอื่นๆรอบข้างก็จะเห็นว่าของเราไม่ทันเขา เราล้าหลังไปมากจริงๆ วันนี้ดิฉันรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมากว่าพี่เต้น หรือคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ของพวกเราจะเป็นอีกหนึ่งแรงที่สำคัญมากๆที่จะทำให้บ้านเราหลังนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พี่เต้นจะเป็นกำลังสำคัญในการที่จะทำให้พี่น้องทุกคนได้กลับมาอยู่บ้านของเรา ที่เราต้องพูดเเลนด์สไลด์ทุกที่เพราะเราอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ พี่เต้นไม่เพียงแต่รู้จักพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี แต่พี่เต้นยังเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง” อุ๊งอิ๊งอธิบายเหตุผลที่ต้องดึงณัฐวุฒิกลับมา

ขณะที่ฝ่ายณัฐวุฒิชี้แจงเหตุผลที่กลับมาตายรัง  “ไม่ว่าเวลาไหนสถานการณ์ใดก็ยังเป็นคนเสื้อแดง แต่จากบทบาทหน้าที่หลังจากนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่านี้ไม่ใช้เวทีเสื้อแดง นี้เป็นเวทีของครอบครัวเพื่อไทยที่จะเดินหน้าทำงานคู่ขนานกับพรรคเพื่อไทย ต่อสู้ทางการเมืองต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ช่วงชิงอำนาจรัฐจากฝ่ายเผด็จการกลับคืนสู่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย …..เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าถ้าจะมีพรรคใดพรรคการเมืองหนึ่งได้คะแนนเสียงเกินครึ่งแบบแลนด์สไลด์ นั่นคือ พรรคเพื่อไทย ผมเททั้งหัวใจเพื่อภารกิจนี้ และจะทำสุดความสามารถ เพื่อชัยชนะของพรรคเพื่อไทย” ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยกล่าว ท่ามกลางแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มนปช.หลายคนที่เดินทางมาให้กำลังใจ อาทิ จาตุรนต์ ฉายแสง , ภูมิธรรม เวชยชัย , ชัยเกษม นิติสิริ , วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ก่อแก้ว พิกุลทอง ฯลฯ  นายใหญ่ชวนเต้นมาช่วยอุ๊งอิ๊งสานฝันเป็นนายกฯ  หวังให้เต้นใช้ความปากดี  ประสบการณ์บนเวทีเสื้อแดง  ผสมคารมแพรวพราวทางการเมืองปูทางให้ลูกสาวได้เป็นนายกฯ   หวังตามรอยโมเดล “นารีขี่ม้าขาว”  ที่อดีตเคยผลักดัน “คุณนายปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากซีอีโอบ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บ.เอสซี แอสเสท คอปอร์เรชั่น ลงหาเสียงเลือกตั้งเพียง ๔๙ วัน ก่อนได้รับเลือกให้เป็นนายกฯหญิงคนแรกของไทย อย่างน้อยเวลาคาราวานครอบครัวเพื่อไทยไปต่างจังหวัด  มีจำอวดหน้าม่านอย่างเต้นมาแสดงก็คงพอเรียกคนมาฟังเรียกชาวบ้านมาชุมนุมได้มากโขอยู่

ไม่ใช่แค่ทักษิณที่ลุกทางการเมืองคนเดียวเท่านั้น   หากแต่ล่าสุดผู้นำรัฐบาลอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯก็เริ่มขยับทางการเมืองให้เห็นอย่างมีนัยยะเช่นกัน ล่าสุดวานนี้ ๑๔  มิ.ย. ก่อนหน้าประชุมครมบิ๊กตู่สั่งเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมแกนนำพรรคที่เป็นรัฐมนตรีทั้งหมด   รวมถึง “หมอตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เข้าไปหารือในห้องรับรอง ก่อนมีข่าวหลุดออกมาในทำนองว่านายกฯอยากฟังความเห็นพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องกฎหมายลูกก่อนจะพิจารณาวาระ ๒ และ ๓ ในสัปดาห์หน้า    “ เรื่องกฎหมายลูก มีการพูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไรดี โดยเฉพาะประเด็นเรื่องคุณสมบัติของสมาชิกพรรคและคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.ว่าผู้ที่เคยต้องโทษจะมาเป็นสมาชิกพรรคได้หรือไม่ ส่วนเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีการเสนอแนะว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้พรรคเล็กๆ มาช่วยโหวตให้ และยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้สูตรหารด้วย ๕๐๐ หรือ ๑๐๐ ” แหล่งข่าวระบุ

อ่านความตามนี้ก็ต้องบอกว่าบิ๊กตู่คงนิ่งเฉยไม่ไหวแล้ว เพราะสัปดาห์หน้า ๒๓-๒๔ มิ.ย.ก็จะถึงวันพิจารณาวาระ ๒ และ ๓  ของกฎหมายลูก ๒ ฉบับแล้ว   ชี้เป็นชี้ตายคิดคะแนนเลือกตั้งในอนาคต   จะไปทางไหนจะเอาอย่างไรก็ต้องเร่งทำบนพื้นฐานผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง   อย่าลืมว่าในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ทั้ง ๒ ฉบับก่อนหน้านี้  ผลโหวตออกมากมธ.เสียงข้างมากส่วนใหญ่หนุนใช้สูตร ๑๐๐ หาร ถึง ๓๒ คน  ส่วนใหญ่ล้วนเป็นกมธ.สายครม. ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ และบรรดาพรรคใหญ่ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน   ส่วนที่งดออกเสียง ๒ คน ประกอบด้วย สาธิต ในฐานะประธานกมธ. กับ ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.

แต่ที่ไม่เห็นด้วยกับสูตรนี้ ๑๑ คน โดย ๒ คนที่ว่าคือ ๑.สมชัย  ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ในสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย และ ๒. “หัวหอกพรรคเล็ก” อย่าง นพ.ระวี มาศฉมาดล พรรคพลังธรรมใหม่  ส่วนที่เหลืออีก ๙ เสียงที่ไม่เห็นด้วยล้วนเป็น ส.ว.ทั้งหมด แถมยังเป็นกลุ่มส.ว.สายบิ๊กตู่ไม่ก็เพื่อนร่วมลุ้นตท.๑๒ ของพล.อ.ประยุทธ์ ล้วนๆ ประกอบด้วย พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์,กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ, สุวรรณี สิริเวชชะพันธ์, วรารัตน์ อติแพทย์, ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม, พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์, กิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม  ดูทรงจากรูปการณ์ในอดีตจากที่ก๊วนส.ว.สายพล.อ.ประยุทธ์บอยคอตสูตร๑๐๐ หาร  ก็ชัดเจนว่าฝ่ายบิ๊กตู่ต้องการ ๕๐๐ หาร    ส่วนฝ่าย ๑๐๐ หารก็มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นคนหนุน รวมถึงพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เลือกใช้สูตรนี้มาตลอด  ทั้งๆที่หลายคนค้านหัวชนฝาว่าสูตร ๑๐๐ หารจะไปเข้าทางทักษิณจะไปตรงใจพรรคเพื่อไทยจะง่ายต่อการแลนด์สไลด์ของโทนี่   ที่ไม่ว่าใครจะไปอธิบายไปชี้แจงรายละเอียดเทียบจำนวนส.ส.ให้เห็นกับตาอย่างไร

ลุงป้อมก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่าเอาสูตร ๑๐๐ ไม่เอาหาร ๕๐๐  อนาคตพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งอุ๊งอิ๊งจะได้เป็นนายกฯทักษิณจะได้กลับบ้านเหยียบแผ่นดินแบบเท่ห์ๆ ลุงป้อมก็ไม่สนสี่สนแปดไม่นำพาที่จะรับฟัง  เวรกรรมประเทศไทยมีจริงเพราะมีผู้นำแข็งแกร่งแต่ดันมีลูกพี่ห่วยแตก  กี่ครั้งกี่เรื่องกี่หนแล้วที่พล.อ.ประวิตรทำให้นายกฯเสื่อมความนิยมรัฐบาลสูญสิ้นศรัทธาจากประชาชน  รอบนี้ถ้ายังปักหมุดยืนกรานเอาสูตร ๕๐๐ หารไม่ฟังเสียงคนรอบข้างที่ห่วงใย  แพ้เลือกตั้งขึ้นมาบ้านเมืองกลับไปอยู่ในมือทักษิณ  รัฐบาลกลับไปเป็นของพรรคเพื่อไทย อุ๊งอิ๊งนายกฯโทนี่กลับบ้านลุงป้อมจะรับผิดชอบความเสียหายแตกแยกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างไร หวังใจว่ารอบนี้บิ๊กตู่จะหักพี่ป้อม เพราะความเป็นไปของบ้านเมืองในอนาคตสำคัญกว่าการตามใจลูกพี่ใหญ่รวมถึงการเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล  ไม่รู้พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าใช้สูตร ๑๐๐ หาร  จะล้มทักษิณบล็อกเพื่อไทยได้  ใช้สูตร ๕๐๐ หาร  ยังมีเวลาให้นายกฯตัดสินใจ  ในวาระ ๒ และ ๓   คว่ำสูตร ๑๐๐ หาร หยิบ ๕๐๐ มาแทน เอาพรรคเล็กมาแบ่งเค้ก เอาแนวคิดส.ส.พึงมีมาทอนผู้แทนจากพรรคใหญ่  โอกาสชนะยังพอมีหวัง แต่ถ้าเดินตามสูตร ๑๐๐ หาร ม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลย รอบนี้ชี้เป็นชี้ตายตัดสินใจผิดชงสูตรคิดคะแนนพลาดเลือกตั้งพ่ายแพ้  อนาคตไม่แคล้วบิ๊กตู่ตัวนายกฯเองนั้นแหละระวังจะโดนเขากลับมาเช็คบิล

////////////////////////

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมืองพัทยา เปิดตัวป้ายจอ LED วอล์คกิ้งสตรีทโฉมใหม่ สุดอลังการ ตอบโจทย์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 28
สงขลา เปิดม่าน “เมืองแห่งป้อมปราการสู่มรดกโลก”
เมืองคอนจัดโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน
ร้อยเอ็ด รมว.ท่องเที่ยว โชว์โดด “Zipline Roi Et Tower”แลนด์มาร์กสุดท้าทายใหม่แห่งอีสาน
เลย ประเมินตำบลยั่งยืนบ้านป่าเป้า ต.ปากปวน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​