"ชัชชาติ" เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกทม.พร้อมเปิดตัวรองผู้ว่า-ทีมงาน เดินหน้านโยบายไม่กังวลงบเหลือน้อย เตรียมเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องหารือรถไฟฟ้าสายสีเขียวก่อนร่วมถกนโยบายตามลำดับขั้น ย้ำทำงานกับนายกได้ไม่มีรอยต่อ "เป็นมวยคนละชั้น ตนเป็นระดับท้องถิ่น ส่วนนายกดูทั้งประเทศ

วันที่ 1 มิ.ย.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถือฤกษ์ 13.19 น. สักการะพระพุทธนวราชบพิตรและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 อย่างเป็นทางการโดยระหว่างที่นายชัชชาติตะเวนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้าราชการลูกจ้างบุคคลกทม.ร่วมตบมือส่งเสียงต้อนรับความดีใจและให้กำลังใจตลอดเส้นทาง จากนั้นได้ประกอบพิธีมอบหมายงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ห้องรัตนโกสินทร์โดยมีนายขจิต ชัชวาณิชย์ ปลัด กทม.และผู้บริหารหัวหน้าส่วนงานและผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขตเข้าร่วมพิธี

นายชัชชาติได้กล่าวกับส่วนราชการว่าในวันนี้จะร่วมเดินกับทุกคนไปอีก4ปีร่วมและขออย่าเรียกตัวเองว่า”นาย” ตนมาเป็นเพื่อนร่วมงานให้เรียก “อาจารย์” มีอะไรคุยกันปรึกษากัน
อย่างเช่นนโยบาย 214 ข้อขอให้ช่วยศึกษาและสะท้อนว่านโยบายดังกล่าวดีหรือไม่ และอยากเพิ่มเป็น 300 ข้อก็ได้ถ้าเห็นดีด้วย เพราะตนเชื่อว่ามีคนเก่งและพร้อมลุยไปด้วยกัน ตนเองมาด้วยความโปร่งใสสุจริตอยากให้กทม.เป็นหน่วยงานเช่นนั้นเช่นกัน นโยบายผู้ว่าสัญจรในวันอาทิตย์ที่จะลงพื้นที่ในแต่ละเขตด้วย ขอความร่วมมือข้าราชการลงพื้นที่เท่าที่จำเป็นไม่ต้องมีป้ายต้อนรับตน

จากนั้นได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนเปิดตัวตนเองทีมรองผู้ว่า/ที่ปรึกษา/และเลขานุการกทม. รวม 18 คนประกอบด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ทีมรองผู้ว่ากทม.

1. รศ. ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล
2. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม
3. ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวช
4. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ

คณะที่ปรึกษาผู้ว่า ประกอบด้วย

1. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษา
2. ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
3. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก
4. พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์
5. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี
6. ดร.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ
7. นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี
8. นายภาณุมาศ สุขอัมพร
9. นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์

เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ

1. นายภิมุข สิมะโรจน์
2. นายเอกวรัญญู อัมระปาล
3. นางสาวศนิ จิวจินดา
4. นายจิรัฏฐ์ ม้าไว
5. นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์

นายชัชชาติ ยัง ยืนยันว่านโยบายยังเป็นเช่นเดิมในการเร่ง แก้ปัญหาน้ำท่วม/หาบเห่แผงลอยและรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะมีการเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องมาหารือก่อนนำไปคุยกับรัฐบาลซึ่งยังไม่ทราบกรอบเวลาชัดเจนในการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเพราะทุกอย่างต้องเป็นลำดับขั้น และไม่กังวลงบประมาณเพียง94ล้าน เนื่องจากมีการลดภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างทำให้เงินหายไปกว่าหมื่นล้านแต่อย่างไรก็ตามตนเองทราบถึงข้อจำกัดในงบประมาณและนโยบาย214ข้อไม่ใช้นโยบายที่ใช้เงินเยอะและเน้นพัฒนารากฝอยมากกว่าเมกะโปรเจคฉะนั้นหลาย ๆ ข้อสามารถเดินหน้าได้ทันทีไม่ต้องรองบประมาณแต่อย่างไรต้องมาดูในงบปี2566 และมองว่าไม่ใช่ปัญหายังมีเงินสะสมของกทม.และเงินที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอีกหลายส่วนด้วย

ส่วนการย้ายศาลาว่าการกทม. นั้นยังเป็นแนวคิดจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดูในเรื่องดังกล่าวอย่างไรก็ตามต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยเพราะมีปัจจัยหลายอย่างแต่ย้ำว่าต้องมอมในภาพใหญ่ว่าข้าราชการต้องรับใช้ประชาชน ซึ่งถ้าหากมีการย้ายศาลาว่าการไปยังที่ดินแดง ที่เสาชิงช้าจะกลายเป็น Hub เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนได้ท่องเที่ยวในรอบเกาะรัตนโกสินทร์ได้ประโยชน์หลายต่อ

ส่วนประเด็นที่มีการเปรียบเทียบรัศมีทางการเมืองระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าฯ กทม.นายชัชชาติยืนยันว่าเป็นมวยคนละชั้น ซึ่งตนเองคือระดับท้องถิ่น แต่นายกรัฐมนตรีเป็นระดับรัฐบาลที่บริหารงานทั้งประเทศ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีรอยต่อในการทำงานแน่นอน และยังฝากถึงข้าราชการ กทม.ที่ทำงานมานาน นายชัชชาติ รับประกันว่าจะให้ความเป็นธรรมในการบรรจุแต่งตั้ง โดยจะเชิญองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นเข้ามาร่วมหารือถึงประเด็นนี้ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 12.43 น. นายชัชชาติ ได้ใช้เท้าขวาก้าวขึ้นบันไดก้าวแรกของศาลาว่าการกทม.