“อัยการฯ”สั่งฟ้อง”ตำรวจทางหลวงกรีดยางรถขนพริก”ลั่น ตร.ไม่ช่วยเหลือพวกเดียวกัน

"อัยการฯ"สั่งฟ้อง"ตำรวจทางหลวงกรีดยางรถขนพริก"ลั่น ตร.ไม่ช่วยเหลือพวกเดียวกัน

เชื่อว่าหลายคนยังจำกันได้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2562 จากกรณีคนขับรถกระบะขนพริกไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ขณะปะทะคารมกับตำรวจทางหลวง หลังจากถูกเรียกตรวจที่หน้าศูนย์บริการตำรวจทางหลวงรัตภูมิ หรือ ป้อมทางหลวงพรุพ้อ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ระหว่างนั้นได้เกิดยางล้อรถกระบะระเบิดขึ้น พร้อมกับมีตำรวจทางหลวงนายหนึ่งที่วิ่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ และมีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการใช้มีดกรีดยางรถ และต่อมาสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 ได้มีคำสั่งย้ายตำรวจทางหลวงนายนี้ไปช่วยราชการที่ตำรวจทางหลวง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ล่าสุด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีและโฆษกสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรรัตภูมิ ได้ส่งสำนวนมาที่พนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เสนอความเห็นควรสั่งฟ้องดำเนินคดีกับดาบตำรวจทางหลวงรายนี้ จากการพิจารณาโดยละเอียดแล้ว อัยการมีความสั่งฟ้องตามที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมา และนำตัวตำรวจที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหายื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 แล้วในวันนี้

นับว่า คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างที่ประชาชนให้ความสนใจ และขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การใช้สิทธิ์ตามกฎหมายไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หรืออิทธิพล หรือพรรคพวกเดียวกัน สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วมีความเห็นว่า พยานหลักฐานพอฟ้อง เสนอสำนวนเห็นควรสั่งฟ้อง

โดย นายโกศลวัฒน์ ย้ำว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นที่สถานีตำรวจว่า ตำรวจทำหน้าที่ตามกฎหมายไม่ได้ช่วยเหลือพวกเดียวกัน อย่างไรก็ตามในกระบวนการยุติธรรมผู้ต้องหายังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป โดยในเรื่องนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ผลการพิจารณาคดีจะแจ้งความคืบหน้า หลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว

สำหรับคดีนี้ ก่อนที่จะส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง ซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน10 นาทีก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนยางให้และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกันและพริกก็ไม่ได้เสียหาย จากนั้นก็ได้เปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท และพูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้งสองฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี แต่ในวันถัดมาคนขับรถได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจรายนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เครือข่ายกัญชา" บุก สธ.วันนี้ เตรียมปักหลักค้าง เปิดเวทีอภิปราย "สมศักดิ์" ปมสมุนไพรควบคุม
ประชุมนัดแรกวันนี้ "บช.ก." เดินหน้าสอบคำร้อง "สมชาย" พร้อมคณะ เอาผิด "นายกฯอิ๊งค์" ปมคลิปเจรจา "ฮุน เซน"กระทบความมั่นคงรัฐ
"กรมอุตุฯ" เตือน ฝนตกหนัก เช็ก 39 จว.อ่วม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.ก็โดนด้วย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “นาจา 2” สร้างสถิติหนังจีนทำรายได้ในต่างประเทศสูงสุดรอบ 20 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชมปรากฏการณ์ 'แม่น้ำสองสี' หลังฝนตกหนักในฉงชิ่ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น