เสาร์ 14 พ.ค.2565 ที่ผ่านมาบรรดาคอการเมืองขนลุกกันทั้งวงการ เพราะจู่ๆ ทายาทตระกูลชิน ที่ถูกมองว่าจะเป็นตั๋วใบสุดท้ายที่จะพาพ่อกลับบ้านอย่างเท่ห์ อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนสุดท้องของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่แดนไกล ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่รู้ไปกินดีหมีใจเสือมาจากไหน หลังขึ้นเวทีเปิดหน้าจัดหนักจัดเต็มเรียกร้องให้คนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินกลับบ้านสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยเป็นการพูดภายระหว่างตระเวนจัดกิจกรรมสัญจรของพรรคภายใต้ชื่อ “ ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ” ณ ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียล สำโรง สมุทรปราการ งานนี้พรรคเพื่อไทยดูวันจัดงานกำหนดธีมกันไว้แล้วว่าจะจัดงานปราศรัยหวัง “ปลุกผี” คนเสื้อแดง เพราะเลือกช่วงเวลาตรงกับการรำลึก 12 ปี เหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงช่วงปี 2553 พอดิบพอดี หนำซ้ำงานนี้พรรคเพื่อไทยก็วางแนวให้คนที่เคยมีประสบการณ์ร่วมในช่วงนั้น ลุกขึ้นมาพูดปลุกผียอวาทีคนเสื้อแดง ผสมกับบิดเบือนใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐโยงถึงรัฐบาลตั้งเป้าให้สะเทือนถึงนายกฯและแกนนำรัฐบาล ที่เคยเป็นโจทย์อยู่ตรงข้ามคนละฝ่ายกันในตอนนั้น
แต่ที่เป็นไฮไลต์สุดๆ ก็อยู่ที่การประกาศเรียกแดงกลับบ้านของอุ๊งอิ๊ง “ ขอเชิญชวนให้พี่น้องเสื้อแดง กลับบ้าน มาร่วมกันกับพรรคเพื่อไทยในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการทวงคืนอำนาจรัฐ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เราไม่เคยทิ้งกันไปไหน ขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงที่เป็นความเข้มแข็ง เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย และพรรคเพื่อไทยคงไม่มาถึงทุกวันนี้ หากไม่ได้รับพลังจากพี่น้องเสื้อแดงทุกคน ขอบคุณนะคะที่ไม่เคยทิ้งกันไปไหน กลับบ้านเรากันค่ะ” แพทองอ้อนคนเสื้อแดง พร้อมระบุเหตุผลที่ต้องเรียกรวมพลกลับบ้าน เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมา การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ของประเทศไทย ได้ทำลายครอบครัวไปมากมาย พี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคนต้องสูญเสียชีวิต สูญเสียกำลังใจ เจ็บปวด แต่เชื่อมั่นว่า ทุกคนยังมีความหวัง เพราะพี่น้องคนเสื้อแดงยังมีพรรคเพื่อไทย
โปรยยาหอมสร้างสตอรี่เท็จผสมเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาแบบความจริงครึ่งเดียวจบ อุ๊งอิ๊งก็อ้าปากแบไต๋ความในใจที่อยากให้คนเสื้อแดงช่วยเหลือ “ เราต้องการให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องกลับไปมีศักดิ์ศรีอีกครั้ง ในวันนี้แม้ทุกอย่างจะดูเหมือนไม่มีทางออก แต่เชื่อมั่นว่าทางออกเดียว คือพรรคเพื่อไทยกลับมาชนะการเลือกตั้ง ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ประเทศชาติจะกลับมาเจริญอีกครั้ง” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยประกาศ “ธาตุแท้” จริงๆที่อยากได้ อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้พรรคไทยรักไทยในยุคทักษิณ เคยเป็นพรรคการเมืองยอดนิยมของประเทศไทย อดีตการเลือกตั้งเมื่อ 6 ก.พ.2548 ยังเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครลืม หลังพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปทั้งประเทศแบบถล่มทลายทั้งแผ่นดินจนเป็นที่มาของคำว่า “แลนด์สไลด์” เพราะกวาดส.ส.ไปได้มากถึง 377 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 310 คน บัญชีรายชื่อ 67 คน จากคะแนนเสียงที่คนไทยทั้งประเทศเลือกมาสูงสุดถึง 18,993,073 คะแนน แต่หลายสิบปีที่ผ่านมาในยุคของพรรคเพื่อไทยต้องบอกว่าพรรคคอกทักษิณก๊วนตระกูลชินวัตร ตกต่ำลงไปเป็นอย่างมากวัดจากผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด 24 มี.ค. 2562 ได้คะแนนจากทั่วประเทศลดลงมาเหลือแค่ 7,933,171 คะแนนเท่านั้น
มารอบนี้อย่างที่ทุกคนรู้ ทักษิณหมายมั่นปั้นมือมากว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงพรรคเพื่อไทยฝ่ายตัวเองจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน เที่ยวนี้ถึงขนาดส่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่างอุ๊งอิ๊งลงมานำทัพด้วยตัวเอง เดิมพันทุกอย่างหมดหน้าตักไม่กลับบ้านรอบนี้ก็ไม่รู้จะกลับรอบไหน เลือกตั้งเที่ยวนี้จึงทุ่มสุดตัวสุดพลัง แถมไม่ประมาทเพราะรอบก่อนที่เป็นรัฐบาลยุคนายกฯน้องสาว เที่ยวนั้นปล่อย “เจ๊ปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องนุชคนสุดท้องลงชืมลางการเมืองด้วยวัย 44 ปี หาเสียง 49 วันก่อนผงาดขึ้นเป็นนายกฯหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของคนไทย มารอบนี้หวังก็อปปี้สูตรเก่าใช้โมเดลเดิมคือ “ นารีพิฆาต นารีขี่ม้าขาว” วางอุ๊งอิ๊งวัย 35 ปีท้าชิงเก้าอี้นายกฯจาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเลย หวังความสดบวกพลังหญิงผสมความเป็นเยาวรุ่นกะน็อคน้องเล็กบูรพาพยัคฆ์ลงให้ได้ ไม่แปลกที่ทักษิณเลือกปล่อยอุ๊งอิ๊งลงน้ำเร็วก่อนยิ่งลักษณ์ เพราะหวังให้หาประสบการณ์คนไทยคุ้นหน้าสะสมความเขี้ยวรอเวลาขึ้นต่อยในวันจริงจะได้ไม่ตื่นสนาม เพราะเดิมพันชีวิตเที่ยวนี้ “แพ้ไม่ได้” เด็ดขาด
ด้วยเหตุที่เลือกตั้งเที่ยวนี้เปรียบเหมือนรถไฟเที่ยวสุดท้ายของพ่อ ในขณะที่ตัวเองก็ถูกมองว่าจะเป็น “ตั๋วใบสุดท้าย” ของพ่อเช่นกันอุ๊งอิ๊งจึงต้องทุ่มทุกอย่างสุดพลัง อย่าได้ตกใจกับการออกมาพูดเรียกคนเสื้อแดงกับบ้านรอบนี้ของอุ๊งอิ๊ง เพราะอนาคตจะมีหนักกว่านี้แรงกว่านี้เปิดศึกมากกว่านี้อีกหลายเท่า ถ้าอุ๊งอิ๊งไม่แน่จริงไม่ใช่ของจริงไม่มีทางที่คนเขี้ยวรากดินเหลี่ยมจัดระดับตำนานอย่างทักษิณจะปล่อยลูกสาวสุดที่รักมาเป็น “เหยื่อ”ทางการเมืองให้บรรดา “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” กัดกินได้ ระดับทายาทคนสุดท้องโคลนนิ่งกันมาสายเลือดตระกูลชิน ทั้งเลือกทั้งเชื้อรับรองแรงไม่แพ้ตัวพ่อที่ดูไบ อย่างไรก็ตามการออกมาพูดเรียกคนเสื้อแดงกลับบ้านให้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเที่ยวนี้ของอุ๊งอิ๊งก็กลายเป็นการ “เรียกแขก” หาเรื่องเข้าตัวแบบเต็มๆ ด้วยเหตุเพราะยุคสมัยนี้คนเสื้อแดงคนเคยแดงทั้งแผ่นดิน ล้วนหูตาสว่างเข้าใจเจตนารมย์ของพ่อลูกและคนในตระกูลชินแจ่มแจ้งแดงแจ๋หมดแล้ว ไม่มีคนเสื้อแดงจะกลับไปถูกหลอกถูกสนตะพายให้ทักษิณหรืออุ๊งอิ๊งจูงจมูกมาเดินตามใจตัวเองได้อีกแล้ว
จับกระแสจากคนที่อยู่ข้างเดียวกับทักษิณหรือเคยอยู่แต่ออกมาจากฝ่ายโทนี่แล้ว ส่วนใหญ่ล้วนสาปส่งและยืนยันตรงกันว่าคนเสื้อแดง “ปลดแอก” จากทักษิณและคนตระกูลชินแล้ว ไล่ตั้งแต่ “ศ.เจียม” สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดี 112 โพสต์รูปการ์ตูนการเมือง เป็นภาพทักษิณถีบหัวเรือส่งคนเสื้อแดง พร้อมเขียนอธิบายอย่างแสบสันต์ถึงพฤติกรรมอัปยศของนายใหญ่ในอดีตว่า “ เสียงเรียกหา “เสื้อแดง” ให้กลับบ้าน พรรคเพื่อไทย ทำให้ชวนนึกถึงว่า ถึงคราวเลือกตั้ง ก็เรียกหากันที พอเลือกตั้งได้ ก็เปลี่ยนท่าทีเหมือนคราวเลือกตั้งชนะปี 2554 ทักษิณก็บอกให้เสื้อแดงว่าส่งแค่นี้พอแล้ว (พี่น้องนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา) ” ศ.เจียมเขียนในเฟสบุ๊กตัวเอง
ขณะที่ “โบว์” ณัฏฐา มหัทธนา ที่เคยเป็นคนเสื้อแดงก็ออกมาตอบโต้ประเด็นนี้แบบแหลมคม “ หลายๆคนที่ออกมาบอกว่าจะต้านรัฐประหารหรืออำนาจเผด็จการสุดตัวนี่ ตอนรัฐประหารคราวที่แล้วเราไม่เห็นพวกเขาเลย ไม่ใช่แค่หลังวันรัฐประหารด้วย ตลอดห้าปีหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยเห็นพวกเขา แต่เราได้ยินเขาพูดคำว่าเผด็จการบ่อยมากหลังการเลือกตั้ง เราได้ยินคำว่าเผด็จการในวันนี้มากกว่าในยุคคสช. ในวันที่เราอยู่ภายใต้รัฐบาลทหารกันจริงๆ วันที่สื่อทำข่าวไม่ได้ วันที่ไม่มีสภาไม่มีฝ่ายค้าน วันที่เผด็จการแปลว่าเผด็จการจริงๆ ถึงขั้นที่มีทหารถือปืนยืนอยู่ในศาลอาญาได้ เราไม่เห็นพวกเขาเลย” ขณะที่ก่อนหน้านี้โบว์ก็เคยโพสต์เรื่องเตือนสติคนบางกลุ่มที่หลงผิดไว้อย่างหน้าคิด “คุณไม่จำเป็นต้องไปเดินตามอะไรที่แย่ๆเพียงเพราะพยายามหวังอย่างคนสิ้นหวังว่ามันจะพากันไปถึงที่ที่คุณอยากไป ถ้าลึกๆคุณรู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง ไม่เข้าท่า ก็ฟังเสียงในใจแล้วเดินออกมา ไม่โดดเดี่ยวหรอกค่ะ คนเค้าเดินออกมาเงียบๆกันเยอะแล้ว” โบว์ระบุ
ด้านมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยถูกหลอกเป็นทาสการเมืองกลายเป็นเบี้ยในมือทักษิณและผู้นำตระกูลชิน ก็ออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดในทำนอง “กูไม่โง่กลับไปให้มึงหลอกอีกต่อไป” พร้อมแฉพฤติกรรมชั่วช้าของระบอบทักษิณทุนสามานย์ ไล่ตั้งแต่ นิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน “ ที่ผ่านมามีนักการเมืองหลายคนมาประสานงานขอให้กลับไปเป็นคนเสื้อแดง รับใช้ประชาธิปไตยจอมปลอมแฝงด้วยเผด็จการ เพราะที่ผ่านมาพวกเราถูกหลอกมาหลายครั้งแล้ว ว่าให้ไปเรียกร้องประชาธิปไตยแต่แท้จริงแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังกลับเป็นเผด็จการเสียเอง ยิ่งพวกเราคนอีสานจะถูกแกนนำดูถูกเหยียดหยามไม่ยอมให้เป็นผู้นำ หรือขึ้นเวที ส่วนแกนนำ นปช.ประจำจังหวัดที่ไม่ปากหวานหรือก้มหัวให้ก็ไม่มีค่ารถ ค่าเดินทาง ต้องใช้งบตนเองจนทำให้หลายครอบครัวต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ติดหนี้ ไปเสียนามาเสียเมีย แต่แกนนำกลับร่ำรวยไปเรื่อยๆ เกือบทุกคน …..วันนี้พวกเราเข็ดมากแล้ว เพราะหลายคนที่ติดคุกก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ บางครอบครัวบาดเจ็บและเสียชีวิตก็ถูกปล่อยทิ้ง ขณะที่แกนนำส่วนกลางที่ไม่เคยมีแม้แต่คนอีสานเลยกับเสวยสุข หรือ แม้แต่กระทั่งผู้อยู่เบื้องหลังก็ทำท่าทีเพิกเฉยไม่ออกมาช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่พอจะถึงเวลาเลือกตั้งก็จะมาบอกว่าปลุกคนเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องลองหลับตาคิดดูค่ะว่า ที่ผ่านมาพวกเราเจ็บปวดอย่างไรบ้าง” อดีตคนเสื้อแดงแฉความบัดซบของแกนนำ “สู้แล้วรวย”
ขณะที่ สมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ ก็เจอความเลวร้ายไม่แพ้กัน “ ในช่วงที่พวกเราเดินสายเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ผู้อยู่เบื้องหลังก็จัดเอาวิทยากรลงพื้นที่มาปราศรัยช่วย ซึ่งล้วนแล้วแต่พูดประเด็นล้มเจ้าล้มแผ่นดิน จนพวกเราถูกตราหน้าว่าหมู่บ้านเสื้อแดงล้มเจ้า จะไปไหนมาไหนก็ถูกคนประณามยิ่งกว่าอะไร…..เรารับไม่ได้และจะไม่ขอให้พี่น้องคนเสื้อแดงที่อยู่ด้วยกลับไปอย่างเด็ดขาด และขอวิงวอนอยากจะให้นักการเมือง ยุติความคิดแบบเห็นแก่ตัว เสียเถอะ พอได้แล้ว อย่าเอาประชาชนไปเป็นตัวประกันต่อรองกับอำนาจของตนเองที่จะไปเป็นใหญ่ในประเทศไทยเลยครับ ขอร้องเถอะครับ พอได้แล้ว” อดีตตัวพ่อแกนแดงภาคเหนือย้ำ
วันนี้ทักษิณไม่ได้อยู่ไทยแล้วแต่กำลังวางแผนดันทายาทพันธุ์แท้โครโมโซมเดียวกัน อย่างอุ๊งอิ๊งกำลังกลับมาสานฝัน “ระบอบทักษิโนมิกส์ ทุนนิยมสามานย์” อีกครั้งหนึ่ง หวังต่อยอดเป็นนายกฯตระกูลชินคนที่ 4 ต่อจากพ่อ อาเขยสมชาย อาปู ย้อนอดีตกลับไปดูความพินาศย่อยยับที่ทักษิณและบริวารทำไว้กับประเทศไทยเชื่อว่าคนไทยใจภักดีไม่เคยลืม พ.ศ. 2547 ประมาทเลินเล่อระหว่างการควบคุมผู้ร่วมชุมนุมประท้วงเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ รวมถึงกรณีปราบปรามในมัสยิดกรือเซะ ทำให้พี่น้องมุสลิมเสียชีวิตกว่า 100 ศพ เป็นเหตุผลหนึ่งทำให้ไฟใต้ไม่เคยดับ พ.ศ.2551 รัฐบาลยุคน้องเขยสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯน้อยวัน สั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ มีผู้บาดเจ็บ 443 คน เสียชีวิต 2 คน พ.ศ.2552 11 เม.ย กลุ่มเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ณ โรงแรมรอยัลคลิฟบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำคนไทยขายขี้หน้าไปทั่วโลก พ.ศ. 2553 ทักษิณปลุกระดมเสื้อแดงใช้ความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองจนพินาศ เกิดเหตุสูญเสียชีวิตทั้งทหารและประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายตกเป็นเหยื่อ กลายเป็นหลุมดำทางการเมืองไทยตลอดมา พ.ศ.2554 ยุครัฐบาลนายกฯหญิงเรืองอำนาจ น้องสาวคนเล็กอย่างยิ่งลักษณ์มาปุ๊บก็พินาศทันที รับปาก “เอาอยู่” เรื่องจัดการน้ำท่วมแต่ท้ายสุดบริหารจัดการน้ำไปไม่รอด เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นมหาอุทกภัยที่ทำให้คนไทย “จำไปจนตาย” เกือบ 7 เดือน เริ่มตั้งแต่ปลายก.ค.54 ถึง 16 ม.ค. 55 ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 12.8 ล้านคน ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท ยุคเดียวกันปล่อยปละละเลยโครงการจำนำข้าวทำรัฐสูญเสียกว่า 7 แสนล้านบาท ชาวนาน้ำตานองหน้าผูกคอตายไปหลายราย ขณะที่น้องสาวอีกคนอย่างเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบานถูกตั้งข้อหามีเอี่ยวอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เช่นกัน ปัจจุบันหนีคดีไปอยู่แดนไกลตามพี่ชาย พ.ศ.2556 ยุคนายกฯปูอีกเหมือนกันใช้เผด็จการเสียงข้างมากลักหลับออกกฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับ “สุดซอย” หน้าฉากป่าวประกาศลดโทษให้ทุกคน หลังฉากหวังพาทักษิณกลับบ้าน แต่แผนแตกถูกกกปส.ออกมาต่อต้านคนไทยนับล้านลุกฮือขับไล่ สุดท้ายเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองยืดเยื้อบานปลายตั้งแต่ปี 56- 57 ก่อนรัฐบาลนายกฯปูใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมกลุ่มกปปส.อย่างรุนแรง ประชาชนบาดเจ็บกว่า 700 คน เสียชีวิต 24 ราย ฯลฯ นี้แค่หนังตัวอย่างเบาะๆ ที่ระบอบทักษิณทำความฉิบหายให้คนไทย
เรื่องอุบาทว์ที่ทำไว้แบบนี้กับชาติบ้านเมืองคนไทย “ไม่เคยลืม” ขณะเดียวกันการเล่นละครตบตาหลอกคนเสื้อแดงไปสู้ยอคนเสื้อแดงให้ไปตาย เราก็เชื่อว่าคนเสื้อแดงคงไม่เคยลืมเช่นกัน ลูกหลายคนใกล้ชิดสมุนบริวารสุขสบายได้ดิบได้ดี แต่ชาวบ้านนักสู้ขนานแท้คนเสื้อแดงต่างจังหวัดจากทั่วทุกแห่งในประเทศไทย ล้มหายตายจาก ติดคุกมีคดี สิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวแตกแยกตัวเองมีมลทิน ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นพวก “ล้มเจ้า-เผาบ้านพังเมือง” ทักษิณลูกหลานเครือข่ายเสวยสุข ชาวบ้านหน้าตรมอกกัดหนอง อำมหิตตัวพ่อแบบนี้เชื่อว่าคนเสื้อแดงไม่ไม่วันลืม เกิดเหตุรัฐประหารจะมีเรื่องทุกครั้ง ทักษิณออกปากก่อนเสมอจะมานำทัพหน้าจะมาสู้ตายกับชาวบ้าน เอาเข้าจริงไม่เคยปรากฎกายมาม็อบสักครั้งเดียว เวลาได้กลิ่นรัฐประหารได้เวลาตะลุมบอน ทักษิณสั่งลูกหลานบอกลูกเมียกระซิบครอบครัวหนีตายไปก่อนเสมอ เขารับต่อสู้กันแทบตายบนถนนราชดำเนินทุกตรอกซอกซอยในกรุงเทพ แต่เมียลูกทักษิณทุกครั้งทุกคราวบินไปอังกฤษอยู่ดูไบหลบลมร้อนไปสิงคโปร์ ด้วยความเคารพมั่นใจว่าคนเสื้อแดงยุคนี้สมัยนี้รวมถึงคนไทยที่เคยหลงผิดรักทักษิณ มาวันนี้หูตาสว่างจ้า ไม่ได้เป็นควายไม่ได้กินหญ้าไม่ยอมให้ใครมาจูงจมูกตีวานให้เดินอีกต่อไป ฝากคนเสื้อแดงแสดงออกส่งเสียงดังๆในทุกช่องทาง บ้านใครบ้านมันเถอะอุ๊งอิ๊ง บ้านคุณมึงกับบ้านพวกผมคนเสื้อแดงมันคนละหลังกัน ตามผิดคนแล้วครับ ด้วยความเคารพ
////////////////////