“ปลัดศธ.” ออกหลักเกณฑ์รองรับเปิดเรียน พร้อมสอน Onsite และ Online

"ปลัดศธ." ออกหลักเกณฑ์รองรับเปิดเรียน ต้องพร้อมสอนทั้ง Onsite และ Online และจัดให้มีสถานแยกกักตัวชั่วคราว

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เซ็นลงนามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา โดยมีหลักเกณฑ์มาตรการรองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เพื่อจัดการเรียนการสอนแบบ Onsite เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยต้องเคร่งครัดตามมาตรการ 6-6-7 ซึ่งก็คือ 6 มาตรการหลัก ได้แก่ เว้นระยห่าง สมหน้ากาก ล้างมือ คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด ทำความสะอาด ,6 มาตรการเสริม ได้แก่ ดูแลตนเอง ใช้ช้อนกลางส่วนตัว กินอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ กักกันตัวเอง และ 7 มาตรการแข้มสำหรับสถานศึกษา อาทิ สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble จัดนักเรียนเว้นยะห่างในห้องเรียน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่ม จัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน จัดให้มีแผนเผชิญเหตุ ควบคุมดูแลการเดินทางเข้าและออกสถานศึกษา หรือ Seal Route

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาในการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปี 2565 แบบ Onsite แบ่งเป็นพื้นที่ดังนี้

1.พื้นที่นำร่อง สีฟ้า และพื้นที่เฝ้าระวัง สีเขียว สถานศึกษาต้องผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อม TSC+ และเคร่งครัดตามมาตรการ 6-6-7 และจะต้องประเมินความเสี่ยงอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์

2.พื้นที่เฝ้าระวังสูง สถานศึกษาต้องผ่านเกณฑ์ประเมินความพร้อม TSC+ และเคร่งครัดตามมาตรการ 6-6-7 โดยจะต้องประเมินความเสี่ยงอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์เช่นเดียวกัน

โดยโรงเรียนประจำ ต้องสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทั้งแบบ Onsite และ Online จัดให้มีสถานที่แยกกักตัวในโรงเรียน รองรับการดูแลรักษากรณีนักเรียน และบุคลากร ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีแผนเผชิญเหตุ และรวมมือกับสถานพยาบาลในพื้นที่ อีกทั้งต้องจัดจุดรับสิ่งของ จุดรับส่งอาหาร รวมทั้งปฏิบัติตามแนวทางมาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด

ส่วนโรงเรียนหรือสถานศึกษาแบบไป-กลับ ต้องมีพื้นที่แยกกักตัวชั่วคราว ต้องควบคุมดูแลการเดินทางระหว่างบ้านกับโรงเรียนอย่างเข้มข้น หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่ม รวมทั้งต้องสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทั้งแบบ Onsite และ Onlie

สำหรับแผนเผชิญเหตุ หากพบผู้ติดเชื้อยืนยันไม่เกิน 2 ห้องเรียน และไม่เกิน 5 ราย ให้ดำเนินการ เช่น ห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อให้ปิดห้องเรียนไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาด แล้วเปิดใช้ห้องเรียนได้ ส่วนห้องเรียนอื่นเปิดห้องเรียนตามปกติ

 

กรณีพบผู้ติดเชื้อยืนยันตั้งแต่ 3 ห้องเรียนขึ้นไป หรือตั้งแต่ 6 รายขึ้นไป ห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อให้ปิดเรียนเฉพาะห้องนั้น ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาด แล้วเปิดใช้ห้องเรียนได้ ขณะที่การปิดเรียนทั้งชั้นหรือสถานศึกษา เป็นอำนาจพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและกทม.

ทั้งนี้การใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเพื่อการสอบ การฝึกอบรม หรือ การทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก หากมีผู้เช้าร่วมกิจกรรมเกินกว่า 1,000 คนในพี่นที่เฝ็าระวังสูง ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำมาตรการเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะพิจารณาตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เบื้องหลัง "นายกฯอนุทิน" ตัดสินใจยุบสภาฯ พรรคปชน.ยื่นซักฟอกล้มรัฐบาล ผิดหวังแพ้มติ ปิดกั้นสว.ห้ามยุ่งแก้รธน.
MOU ขับเคลื่อนเมืองท่องเที่ยวปลอดภัย
พุทธา–เทวาภิเษก “เหนือดวง องค์พ่อจตุคามรามเทพ” 108 พระเกจิปลุกเสกเข้มขลัง
“Phuket Detox 18 ปีแห่งความไว้วางใจ” สู่ก้าวใหม่ของนวัตกรรมเพื่อคนภูเก็ต
"สันติสุข" โพสต์เดือด "ยุบสภาไปเลยก็ดี" คนไทยได้เห็นธาตุแท้ฝ่ายค้านบางพรรค สนใจแค่แก้รธน.ไม่ห่วงความเป็นตายชาติ
ภูเก็ตประชุมกองทุนยุติธรรมช่วยประชาชน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​